ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
บวกต่อในกรอบจำกัด
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับขึ้นต่อในกรอบจำกัด… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร (งบไตรมาส 1/65 เท่าที่ออกมาค่อนข้างดี) และกลุ่มโรงพยาบาล (ท่องเที่ยวฟื้น + ติดเชื้อ COVID ยังสูง)… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดเป็นบวกเล็กน้อย i) ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น หนุนโดยผลประกอบการไตรมาส 1/65 ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง P&G และ IBM ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ดัชนีแนสแดคเผชิญแรงกดดันจากหุ้น NETFLIX ซึ่งร่วงหนักถึง 35% หลังจากบริษัทส่งสัญญาณผู้ใช้บริการชะลอตัวลง ii) บอนด์ยิลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ขึ้นทดสอบระดับสำคัญทางจิตวิทยา 3.0% ระหว่างเทรด ก่อนที่จะถอยกลับลงมาสะท้อนว่าตลาดได้รับรู้แนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ไปค่อนข้างมากแล้ว ทั้งนี้เมื่อวาน ผู้ว่าการเฟดสาขาซานฟรานซิสโก Mary Daly แถลงว่าเธอคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟดจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 2.50% ในสิ้นปี 2565 ด้านปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงสงกรานต์ เพิ่มขึ้นถึง 120% YoY และชี้ว่าสถานการณ์นักท่องเที่ยวอยู่ในช่วงฟื้นตัว ขณะที่ในเดือน พ.ค. มีโอกาสสูงที่ภาครัฐฯ จะผ่อน คลายมาตรการ COVID-screening เพิ่มเติมอีก ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 21,931 ราย เสียชีวิต 129 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 24,619 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร SPA, III, GULF*
- SPA (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.4 บาท / แนวต้าน 7.6 บาท หาก Breakout ผ่านได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านถัดไป 7.8 – 8.0 บาท (Stop loss 7.1 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มทยอยฟื้นตัว ตามการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ของภาครัฐฯ (คาดวันศุกร์นี้ที่ประชุม ศบค. มีโอกาสผ่อนคลายมาตรการฯ เพิ่มเติม) 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปีนี้จะยังมีผลขาดทุนสุทธิเล็กน้อย แต่ EBITDA ปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง +160% YoY เป็น 195 ล้านบาท ขณะที่คาดปี 2566 จะ Turnaround เป็นกำไรสุทธิได้ที่ 185 ล้านบาท Forward PE บนประมาณการปี 2566 เท่ากับ 34.7 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE ในอดีตเท่ากับ 40 เท่า)
- III (เป้า Consensus 20.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 15.1 บาท หาก Breakout ผ่านได้ ประเมินมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านถัดไป 15.6 – 16.0 บาท (Stop loss 14.3 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานรับ Sentiment ลบจากมาตรการล็อคดาวน์ของจีนพอสมควรแล้ว ขณะที่ล่าสุดทางการจีนเตรียมออกมาตรการเยียวยาฯ และเราคาดค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ (Shanghai Containerized Freight index) ที่เป็น Benchmark ของธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวในเดือน พ.ค. หลังจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการฯ (คาดจะมีการ Restock สินค้าอีกรอบ) พร้อมทั้งประเด็นข่าวเตรียมเปิดตัวพันธมิตรขนส่งสินค้ารถไฟ จีน ลาวเร็วๆ นี้ หนุน 3) Consensus คาดกำไรปีนี้โต +29% YoY ส่งผลให้ Forward PE ปีนี้ลดลงเหลือ 19.5 เท่า (Trailing PE 24.4 เท่า)
- GULF* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 49.5 บาท / แนวต้าน 50.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน +/- 52 บาท (Stop loss 48 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการเตรียมลงทุนในธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ร่วมกับ Binance โดยฝ่ายวิจัยฯยังไม่รวมประเด็นนี้ในประมาณการฯ เนื่องจากรอข้อมูลการทำธุรกิจเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ เป็น Upside 3) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินธุรกิจโรงไฟฟ้าของ GULF ได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานน้อยกว่าหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นๆ ในกลุ่ม โดยคาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 37% ต่อปี (CAGR 2564 – 66)
หุ้นมีข่าว
(+) FORTH เต่าบินสุดฮอต ขยายเร็วเข้าตลาดปี 66 (ทันหุ้น) FORTH เตรียมนำ “เต่าบิน” เข้าตลาดหุ้นกลางปี 2566 กระแสดีเร่งติดตั้ง ชู 1.2 พันตู้ ขายวันละ 2.5-2.6 ล้านบาท ปีนี้ขยายครบ 5 พัน คาดปี 2567 แตะ 2 หมื่นตู้ตามแผน เป็นคาเฟ่ที่มีชนิดน้ำดื่มมากที่สุดในโลก พร้อมเดินหน้าติดตั้งที่ชาร์จคอนโดมิเนียม โรงแรม มั่นใจรายได้ตามเป้า 15-20% ลุยประมูลงานกว่า 9 พันล้านบาท
(+) FSMART จ่อบุ๊กกำไรเต่าบิน เล็งถือหุ้นเพิ่มตั้งตู้พันจุด (ทันหุ้น) FSMART จ่อบุ๊กส่วนแบ่งกำไร “เต่าบิน” ปีแรก เตรียมเสนอแผนถือหุ้นเพิ่มจากเดิม 19.34% พร้อมเร่งติดตั้งเพิ่ม 1.1 พัน หวังสิ้นปีมีแตะ 5.5 พันตู้ จับตายอดเติมเงินฟื้นครึ่งหลัง 2565 ปักเป้ารายได้ปีนี้พุ่งขึ้น 10-15% ลุยธุรกิจการเงินครบวงจร จ้องปล่อยสินเชื่อพันล้าน
(+) สะพัด! RAM ควบ EKH ผงาดหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่ง เพิ่มอำนาจต่อรอง หนุนซินเนอร์ยี่เพียบ (ข่าวหุ้น) ลือสะพัด! RAM เตรียมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ของ EKH สัดส่วนเกิน 25% เล็งควบรวมกิจการ พร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง “วงการเงิน” คาดราคาเพิ่มทุนน่าจะอยู่ 8.60-9.00 บาท หวังเพิ่มอำนาจต่อรอง หนุนซินเนอร์เพียบ จับตาตั้งโต๊ะเทนเดอร์หลังถือหุ้นเกิน 25% ด้านโบรกฯ แนะนำ “ซื้อ” เป้าราคา 9.40 บาท ชูผลงานไตรมาส 1/65 กำไรโต 93.2% รับแรงหนุนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
(+) SKE ทุ่มงบ 43.55 ล้าน ซื้อหุ้น VANTA 30% ลุยธุรกิจเทคโนโลยี (ข่าวหุ้น) SKE ทุ่มงบ 43.55 ล้านบาท ลงทุนซื้อหุ้น “แวนต้า แคปปิตอล” สัดส่วน 30% แตกไลน์ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ (Trading Software) หลังเห็นเทรนด์การเติบโตของธุรกิจด้านเทคโนโลยี
(+) WINMED ชนะประมูล นำเข้า ATK ล้านชุด (ข่าวหุ้น) WINMED ชนะการประมูลจัดหาและนำเข้าชุดตรวจ ATK แบบน้ำลาย จำนวน 1 ล้านชุด ส่งแบรนด์ LTIUO วางจำหน่ายผ่านร้านขายยาองค์การเภสัชกรรม 8 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ เร่งเดินหน้าเข้าประมูลเพิ่มต่อเนื่อง หนุนรายได้ทั้งปีตามเป้าเติบโตกว่า 50% แตะ 800-900 ล้านบาท
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 22.2 บาท / แนวต้าน 230 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 22 บาท)
- ERW (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนวรับ 3.54 บาท / แนวต้าน 3.7 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 3.5 mm)
- M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 55 บาท / แนวต้าน 56-57 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 54 บาท)
- BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนวรับ 31.25 บาท / แนวต้าน 32.75 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 30.5 บาท)
- BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 29 บาท / แนวต้าน 30 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 31 บาท (Trailing stop 28 บาท)
- ASW (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 8.0 บาท / แนวต้าน 8.25-8.5 บาท (Stop loss 7.9 บาท)
- IVL* (เป้าพื้นฐาน 68 บาท) แนวรับ 45.5 บาท / แนวต้าน 47 48 บาท (Stop loss 44.75 บาท)
- WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.2 บาท) แนวรับ 3.32 บาท / แนวต้าน 3.42 – 3.50 บาท (Stop loss 3.3 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- BH แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 185 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 1Q65 = 699 ล้านบาท (+667% YoY +14% QoQ) ซึ่งเป็นผลจากการที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศปลายปี 2554 ที่ผ่านมา หนุนการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ และคาดการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ดี Upside จำกัด ในเชิงพื้นฐานจึงแนะนำเพียง “ถือ”
