บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) 13.0%

Close Apr 20, 2022 Price (THB) 11.50

12M Target (THB) 13.00

Previous Target (THB) 13.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 1.6 พันลบ. (+62% QoQ, +15% YoY) สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดโอนโครงการแนวราบที่โดดเด่น
  • บริษัทรายงานยอด Presale 1Q65 ที่ 1.3 หมื่น ลบ. (+66% QoQ, +23% YoY) เติบโตเด่นทั้งแนวราบและแนวสูง
  • คาดแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 2Q65 จํานวน 18-20 โครงการรวมมูลค่าอย่างน้อย 2.4 หมื่นลบ. จะเป็นปัจจัยสำคัญหนุนการเติบโตของยอดขายและยอดโอน 2Q65 ให้เติบโตต่อเนื่อง

Our view

  • เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 หากใกล้เคียงคาดจะคิดเป็นกว่า 32% และ 34% เมื่อเทียบกับประมาณการกำไรทั้งปีของเรา และ Bloomberg consensus ที่ 5.0 พันลบ. และ 4.8 พัน ลบ. ตามลำดับ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการ และราคาเหมาะสมในลำดับถัดไป
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 เป็น 13.00 บาท/หุ้น AP มีปัจจัยบวกระยะสั้น คือ เงินปันผลงวดปี 2564 ที่จะขึ้น XD ในวันที่ 10 พ.ค. 2565 คิดเป็น Dividend Yield ที่สูงถึง 4.3% ช่วงจำกัด Downside risk ในระยะสั้น

AP (THAILAND) คาดกำไร 1Q65 เป็นจุดสูงสุดใหม่

คาดกําไรปกติ 1Q65 ทํา New High รายไตรมาส

เราคาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 1.6 พันลบ. (+62.2% QoQ, +14.9% YoY) เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY และเป็นจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัทฯ หลักๆ เป็นผลมาจากอุปสงค์แนวราบที่ยังกลับมาแข็งแกร่ง หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ประกอบกับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 1Q65 จำนวน 10 โครงการ รวมมูลค่า 9.2 พันลบ. (คิดเป็นกว่า 41% เมื่อเทียบกับยอดเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 2564) คาดมีสัดส่วนที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในไตรมาส เป็นผลให้เราคาดยอดโอนกรรมสิทธิ์ 1Q65 เป็น New high เช่นกันที่ 1.0 หมื่นลบ. (+40.0% QoQ, +14.3% YoY)

เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 33.3% (21bps QoQ, +68bps YoY) จากความสามารถในการปรับราคาขายสินค้าประเภทแนวราบเพื่อส่งต่อต้นทุนวัตถุดิบไปยังลูกค้าได้บางส่วน ซึ่งการโอนกรรมสิทธิ์ใน 1Q65 คาดมีสัดส่วนเป็นโครงการแนวราบกว่า 90% เมื่อเทียบกับยอดโอนทั้งหมด ทั้งนี้ หากกำไรปกติ 1Q65 ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะคิดเป็นกว่า 31.9% จากประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2565 ของเราที่ 5.0 พันลบ.

Presale 1Q65 ทำจุดสูงสุดใหม่ จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่หนาแน่น

บริษัทรายงานยอด Presale 1Q65 ที่ 1.3 หมื่นลบ. เติบโตขึ้นเด่น 65.9% QoQ และ 62.7% YoY แบ่งออกเป็นโครงการแนวราบ 1.1 หมื่นลบ. (+42.2% QoQ, +48.1% YoY) เป็นจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส หนุนจากการเปิดตัวโครงการที่หนาแน่นกว่า 3 โครงการ รวมมูลค่า 8.0 พันลบ. (โครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ 5.1 พันลบ. และ ทาวน์เฮ้าส์ 5 โครงการ 2.9 พันลบ.) มี Take-up rate เฉลี่ยในช่วงไตรมาสของการเปิดตัวที่สูงราว 40% (สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ราว 15-20%) หลักๆ เป็นผลมาจากโครงการส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่มีอุปสงค์สูง อาทิ ปิ่นเกล้า, ศรีนครินทร์ และแจ้งวัฒนะ เป็นต้น

สำหรับ Presale แนวสูง 1Q65 รายงานที่ 2.2 พันลบ. เติบโตอย่างมีนัยสำคัญกว่า 900.5% QoQ และ 220.6% YoY และสูงที่สุดในรอบ 11 ไตตมาส แม้มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 1 โครงการ คือ Aspire Pinklao – Arun Amarin (มูลค่า 1.2 พันลบ. Take-up rate 42% Sold) สะท้อนถึงการระบายสินค้าที่เริ่มมี สัญญาณการฟื้นตัว คาดส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

โดยรวมเรามีมุมมองเป็นบวกต่อ Presale 1Q65 คิดเป็น 26% จากเป้าหมายทั้งปี 2565 ของบริษัทที่ 5.0 หมื่นลบ. ทั้งนี้ หากอิงแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทในช่วง 2Q65 จำนวน 18-20 โครงการ คาดมูลค่าอย่างน้อย 2.4 หมื่นลบ. (คาดมากกว่า 80% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดเป็นสินค้าแนวราบ) จะเป็นปัจจัยหนุนยอด Presale และยอดโอนกรรมสิทธิ์ให้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง QoQ ในช่วง 2Q65

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 เป็น 13.00 บาท/หุ้น

เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565/66 ที่ 5.0 พันลบ. (+2.0% YoY) และ 5.4 พันลบ. (+6.7% YoY) ตามลำดับ อย่างไรก็ดี หากบริษัทรายงานกำไรปกติ 1Q65 ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะคิดเป็นกว่า 31.9% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ของเราที่ 5.0 พันลบ. และ 33.6% เมื่อเทียบกับคาดการณ์ของ Bloomberg consensus ที่ 4.8 พันลบ. เราจึงมองว่าประมาณการปี 2565/66 ของเราและ Consensus ยังมี Upside risk หากอัตราดูดซับอุปทานโครงการแนวราบยังดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และคาดมีโอกาสสูงที่เราและ Consensus จะมีการปรับประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้นในลำดับถัดไป

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 13.00 บาท/หุ้น (อิง PER2565 เท่าเดิมที่ 8.1x เทียบเท่า +1.0SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของบริษัท) จากการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีแผนขยายฐานรายได้อย่างชัดเจนผ่านการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 นอกจากนี้ AP ยังมีปัจจัยบวกรออยู่ คือ การประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H64 ที่ 0.50 บาท/หุ้น (XD 10 พ.ค. 2565) คิดเป็น Dividend Yield จากราคาปิดวานนี้ที่สูงถึง 4.3% ช่วยจำกัด Downside risk ในระยะสั้น

- Advertisement -