บล.พาย:

VGI: กำไรฟื้นปานกลาง ภาพการเติบโตยังสดใส

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 6.20 บาท จาก 6.50 บาท คำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) หรือคิดเป็นค่าพรีเมี่ยม 50% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสื่อไทย การปรับลดมูลค่าพื้นฐานดังกล่าวสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรปี FY2022-23 จากผลประกอบการของ KEX (ถืออยู่ 18.06%) และบริษัทร่วมอื่นๆ อีกหลายแห่งที่ต่ำกว่าคาด ผนวกกับการที่ธุรกิจสื่อนอกอาคารสถานที่ (OOH) ที่ฟื้นตัวช้า

  • คาดกระแสรายได้จากธุรกิจสื่อและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Nine เพิ่งเริ่มเข้าบริหารจัดการ) ภายในช่วงปลาย 2QFY23 (ก.ค.-ก.ย. 2022) จะคิดเป็น 70% ของระดับในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เมื่อกรุงเทพฯ เปิดเมืองเต็มรูปแบบ และมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้ากลับเข้ามาในระดับหนึ่ง
  • เป้าหมายรายได้ของผู้บริหารสำหรับปี FY2023 ที่ 6.5-7.0 พันล้านบาท ถือว่าเป็นการมองภาพในแง่บวก เพราะเราคาดว่ารายได้ธุรกิจ OOH จะไม่ฟื้นเร็วขนาดนั้น
  • คาดถึงผลขาดทุนสุทธิจากกิจการปกติที่ 118 ล้านบาทใน 4QFY22 (ม.ค.-มี.ค. 2022) ถือว่าปรับดีขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JMART (ถือ 15%) ที่เริ่มเดินเครื่องในเดือน ธ.ค. 2021

จากฟื้นตัวสู่ช่วงแห่งการเติบโต

คาดรายได้ธุรกิจ OOH ของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี FY2023 ตามจำนวนผู้โดยสารในระบบ BTS และการกลับมาใช้จ่ายงบโฆษณาบนแพลตฟอร์ม OOH หลังมีการผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มโควิด-19 โดยคาดว่ากระแสรายได้จากธุรกิจสื่อและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Nine เพิ่งเริ่มเข้าบริหารจัดการ) ภายในช่วงปลาย 2QFY23 (ก.ค.-ก.ย. 2022) จะคิดเป็น 70% ของระดับในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เมื่อกรุงเทพฯ เปิดเมืองเต็มรูปแบบ และมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้ากลับเข้ามาในระดับหนึ่ง

ส่วนในช่วงปี FY2024 กำลังการผลิตสื่อ OOH ของบริษัทจะกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เพราะบริษัทจะจัดสรรงบราว 600 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงสร้างโฆษณาใหม่และโฆษณาหุ้มตัวรถไฟฟ้าในเส้นทางเดินรถใหม่ที่รวมถึงสายสี เหลือง-ชมพู (คาดเดินเครื่องส่วนหนึ่งภายใน 3QFY23) และสายสีเขียวส่วนต่อขยายตอนเหนือ-ใต้ ขณะที่มี upside ที่อาจเกิดขึ้น หาก BTS สามารถชนะประมูลสายสีส้มที่จะจัดขึ้น (คาดเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ส่วนหนึ่งในปี 2025)

พรีวิวผลประกอบการ

  • คาดถึงผลขาดทุนสุทธิจากกิจการปกติที่ 118 ล้านบาทใน 4QFY22 (ม.ค.-มี.ค. 2022) เทียบกับขาดทุน 125 ล้านบาทใน 3QFY22 และขาดทุน 234 ล้านบาทใน 4QFY21
  • ตัวเลขดังกล่าวถือว่าปรับดีขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JMART (ถือ 15%) ที่เริ่มเดินเครื่องในเดือน ธ.ค. 2021 ขณะที่ปรับดีขึ้น YoY จากการปรับเพิ่มอัตราภาษีใน 4QFY21 ที่คิดบนรายการกำไรพิเศษครั้งเดียว และรายการขาดทุนพิเศษของ MACO ใน 4QFY21 ที่รับรู้ภายใต้รายการส่วนแบ่งกําไร
  • คาดรายได้รวม 4QFY22 จะลดลงจากยอดสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาสที่ผ่านมา หรือใน 3QFY22 มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (-6%QoQ) สืบเนื่องจากการจัดโปรโมชั่นการขายสำหรับ Fanslink เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา  ขณะที่คาดว่ารายได้ธุรกิจ OOH จะยังมีการเติบโตที่ทรงตัว QoQ
  • ประเมินส่วนแบ่งกำไรที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจาก JMART แต่โดยรวมยังถือว่าน่าผิดหวัง เพราะผลการดำเนินงานที่ไม่ดีของ KEX (ถือ 18%)

ปรับลดประมาณการกำไรปี FY2022 ลงเป็นขาดทุนสุทธิ และปรับลดกำไรสุทธิปี FY2023 ลง 19%

ปรับลดประมาณการปี FY2022 เป็นขาดทุนสุทธิ 192 ล้านบาท หลังจากปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลงเป็น 21.9% เพราะ GPM ที่ต่ำกว่าคาดจากธุรกิจ OOH และบริการดิจิทัล รวมถึงการปรับลดส่วนแบ่งกำไรลงจากผลการดำเนินงานที่ไม่ดีของ KEX นอกจากนี้ยังปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY2023 ลง 19% เป็น 623 ล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยต่างๆ ข้างต้น

Revenue breakdown

รายได้หลักของ VGI สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ ธุรกิจสื่อเคลื่อนที่ (54% ของรายได้รวมในปี FY2021) ซึ่งครอบคลุมสื่อโฆษณาภาพนิ่งและดิจิทัลบนระบบรถไฟฟ้า BTS ปัจจุบัน VGI มีสื่อภาพนิ่ง 4,000 จุด และจอฉายสื่อดิจิทัล 2,000 จุด กระจายอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า 30 สถานี และตู้โดยสาร 236 ตู้

ธุรกิจสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่นๆ ที่คิดเป็น 9% ของรายได้รวมในปี 2021 ซึ่งประกอบด้วย จอฉายดิจิทัลที่ติดตั้งในอาคารสำนักงาน

ธุรกิจบริการระบบดิจิทัลที่คิดเป็น 37% ของรายได้รวม โดยจะครอบคลุมบริการชำระเงินแบบออฟไลน์ และออนไลน์ บริการทางการเงิน และบริการโฆษณาออนไลน์ที่จัดการโดย VGI Digital Lab

 

- Advertisement -