แนะนําเริ่มทยอยสะสมได้บางส่วนใน Domestic แนะนำ TACC PLANB

ตลาดหุ้น Dow Jones ยังคงผันผวนต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตลาดลดลงไปถึง 2% ก่อนจะฟื้นตัวมาปิด -0.3% ปัจจัย รบกวนยังคงเป็นเรื่องของเงินเฟ้อและความกังวลของนักลงทุนว่า FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แรงกว่าประธาน FED เคยกล่าวไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาเริ่มมีปัจจัยบวกอ่อนๆ เกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ตลาดน่าจะผ่อนคลายลงได้บ้าง นั่นก็คือการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ออกมาตามตลาดคาดพร้อมกับ Core PPI ขยายตัวเพียง 0.4% เทียบกับตลาดคาดที่ 0.6% รวมถึงการเปิดเผยการขอรับสวัสดิการว่างงานที่ค่อนข้างแย่กว่าที่ตลาดประเมิน มีผู้มาขอรับสวัสดิการว่างงาน 2.03 แสนตำแหน่งเทียบกับตลาดประเมินที่ 1.9 แสนตำแหน่ง ถือเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึง อุปสงค์ในการก่อเงินเฟ้อที่เบาบางลง ด้านราคาน้ำมันดิบ ปิดผสมผสานกล่าวคือ WTI +0.4% แต่ BRT-0.05% ปัจจัยหนุน ได้แก่ อุปทานตึงตัวมากขึ้นจากการปิดเส้นทางขนส่งของยูเครน ปัจจัยลบ ได้แก่ ความวิตกว่า COVID-19 ในจีนจะกดดันอุปสงค์

ปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 1Q22 SET100 รายงานออกมาแล้ว 68 บริษัท หรือมี Market Capitalization รวมกันที่ 59% ของ Market Capitalization ของ SET พบว่ามีกำไรสุทธิรวมกัน 1.94 แสนล้านบาท (+2.2%YoY, +20%QoQ) การเติบโตเด่น QoQ ได้แรงหนุนจาก (BANPU) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) โรงไฟฟ้า (EGCO) ปิโตรเคมี (IVL) โรงพยาบาล (BDMS) โดยล่าสุด Bloomberg Consensus เริ่มปรับลด ประมาณการกำไรปี 22 ลงมาอยู่ที่ 96.5 บาท / หุ้น ช่วงก่อนประกาศงบอยู่ที่ 97.2 บาท / หุ้น ทั้งนี้เชื่อว่า 2Q22 ผลกระทบจากเงินเฟ้อจะแรงกว่า 1Q22 เบื้องต้นจึง ประเมินว่า 2Q22 อาจจะอ่อนตัว QoQ

สำหรับ SET INDEX ด้วยความที่ปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดเดิม 6.8% ประกอบกับ Forward PE ลงมาอยู่ที่ 16.3x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในรอบ 12 ปีย้อนหลัง และตลาด Price In 0.75% ของ FED ไปพอสมควร ส่งผลให้เราเชื่อว่า Downside จะเริ่มจำกัด และหลังจากนี้ตลาดจะรอดูข่าวสารใหม่ๆ หากไม่มีปัจจัยลบรุนแรงเชื่อว่า 1580 จะ เป็นแนวรับที่ทำงานได้ โดยเช้านี้ Nikkei เริ่มฟื้นตัวเด่นราว 1.9% มองเป็นจิตวิทยาบวกมายัง SET มีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1585 – 1600 เชิงกลยุทธ์การลงทุน มอง Domestic ปรับฐานลงมาจนน่าสะสม ระยะกลาง อาทิ ค้าปลีก (CPALL CRC HMPRO) กลุ่มสื่อ (ONEE PLANB) สื่อสาร (ADVANC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK TISCO) เครื่องดื่ม (TACC) ท่องเที่ยว (CENTEL MINT SPA)

TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.25 บาท) กำไรสุทธิ 60 ลบ. (+29%YoY,+4%QoQ) ทำสถิติสูงสุดได้ใหม่อีกครั้ง และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน กำไรขั้นต้นยังรักษาระดับ 39% ได้ต่อจาก 4Q21 และเพิ่มจาก 36% ใน 1Q21 แนวโน้มช่วง 2Q22 คาดว่ายังเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9 บาท) คาดกำไรปีนี้จะโตขึ้นทุกไตรมาส หนุนจากรายได้ธุรกิจสื่อที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง บวกกับอัตรากำไรการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากอัตราดำเนินงานที่ปรับขึ้นค่าการันตีขั้นต่ำให้กับ MACO ที่ลดลงเกือบ 60% เหลือ 250 ล้านบาท/ปี

 

***หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้โดยแนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจาก ปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -