รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีบวก (ต่อ)
Market wrap & Outlook
- วานนี้ดัชนีเด้งแรง หุ้น alpha บวกแรงนำโดย TH JMT MEGA BE8 THANA CMO PSG CAZ FSMART TIPH PSG YGG LEO SYNEX และหุ้นใหญ่ เช่น PTTEP IVL PTT BANPU KBANK CPF ส่วนปิดลบกดดันตลาด เช่น JTS DITTO BCH CHG OR BLA
- วันนี้คาดดัชนี บวก(ต่อ) ด้วย Risk appetites ที่ยังคงเห็นได้จากแรงซื้อคืนแบบมีนัยยะ ซึ่งเมื่อวานหุ้นรายตัวเล่นบวกกลับเกิน 7% พบมีจำนวนมาก ในหุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้ ดังนั้นกลยุทธ์วันนี้ แนะนำเลือกเล่นหุ้นที่ Underdog กลุ่ม/ตลาด และมีแนวโน้มกำไร 2Q22 ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด (สามารถติดตามแนวโน้มงบ 2Q22ได้ในรายงานสรุปงบวันนี้)
What to watch
- จีน-เซี่ยงไฮ้ วางแผนยุติมาตรการล็อกดาวน์ มีผล 1 มิย.โดยวันที่ 16 พค.เริ่มทยอยคลายล็อกบางส่วน
- MSCI ทบทวนดัชนีรายไตรมาสมีผลต่อราคาปิดของวันที่ 31 พ.ค. เพิ่มน้ำหนักหุ้น BDMS EA OSP และBGRIM และลดน้ำหนักหุ้น CPALL PTT RATCH AOT SCC SAWAD ADVANC PTTEP GULF (ที่มา Aspen)
- ภาพกำไรสุทธิของ SET ไตรมาส 1 ถือว่าออกมาค่อนข้างดี ปรับตัวขึ้น 15% YoY และ 10% QoQ สูงกว่าทั้งเราและตลาดคาดประมาณ 6% หลักๆ มาจากกลุ่มปิโตร, กลุ่มเรือ, กลุ่มอาหาร, กลุ่มโรงพยาบาลที่ออกมาดีกว่าคาด
- ถ้าไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักโตแรง 40% YoY และ 21% QoQ ดีกว่าเราคาด 10% โดยสรุป กลุ่มที่มีการเติบโตโดดเด่น มี 3 กลุ่ม เช่น กลุ่ม รพ. จากผู้ป่วยโควิดที่สูง, กลุ่มเปิดเมือง กลุ่มขนส่ง กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ และกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่อยุ่ในระดับสูงและกลุ่มที่ออกมาไม่ค่อยดี คือ กลุ่มที่โดนผลกระทบจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นกดดันภาพกำไร เช่น แพ็คเกิจจิ้งและสินค้าเกษตร สำหรับกลุ่มที่เห็นการปรับประมาณการกำไรขึ้นมี 6 กลุ่มจากทั้งหมด 12 กลุ่ม
หุ้นแนะนำวันนี้
- KTC หุ้น Under owned เชื่อมโยงธีมกลุ่มเปิดประเทศ คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตพุ่งจากการเที่ยวต่างประเทศฟื้น
- SCGP กล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งออกกลับมาขยายตัวหลังจีนคลายล็อก บวกกับต้นทุนที่เริ่มทรงตัว หนุนกำไร 2Q22 มีโอกาสกลับมาดีกว่าคาดเร็วขึ้น
Technical Daily (T)
หัวข้อ: หุ้นโลกถึงจุดรีบาวด์!
แนะนำ ซื้อ
CPF แนวรับ 25 แนวต้าน 30-31 (stop loss < 24.8)
BEM แนวรับ 8.3-8.4 แนวต้าน 9 และ 9.2 (stop loss < 8.2)
KCE แนวรับ 60-61 แนวต้าน 66 และ 68 (stop loss < 58)
Global Investing Brief: ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ โตต่อ แม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง // Walmart งบ F1Q23 ดีกว่าคาด แต่ปรับลดคาดการณ์กำไร
Highlight
Bloomberg รายงานว่าตลาดหลักทรัพย์ฟิวเจอร์สกวางโจวของจีน มีแผนที่จะเปิดตัวสัญญาซื้อขายบนซิลิคอนครั้งแรกในเดือน ส.ค. นี้ โดยเราคาดว่าสัญญาซื้อขายดังกล่าวจะได้รับความนิยม หลังข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตซิลิคอน Hoshine Silicon Industry เผยว่าจีนมีสัดส่วนการผลิตซิลิคอนเชิงอุตสาหกรรมกว่า 80% ของโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- 3 ดัชนีหลักปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี DJIA +1.3%, S&P 500 +2.0% และ Nasdaq +2.8% หลังยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.9%MoM (8.2%YoY) เป็นไปตามตลาดคาด แสดงให้เห็นถึงการบริโภคของชาวอเมริกันที่ยังคงดำเนินต่อไปแม้เงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับที่สูง โดย Disney (DIS) +3.3%, Visa (V) +3.1% บวกนำดัชนี
- Walmart (WMT) เผยงบ F1Q23 รายได้โต 2.4%YoY สู่ $141.57bn ดีกว่าตลาดคาด หนุนจากยอดขายสาขาเดิมที่โต 3%YoY ในสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีหุ้นปรับลง 11.4% เมื่อคืนนี้ หลังบริษัทปรับคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ตามปีบัญชี 66 ลงจากโตราว 4-6%YoY เหลือหดตัว 1%YoY เหตุจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีบริษัทปรับคาดการณ์รายได้ขึ้นเป็นโต 4%YoY จาก 3%YoY แสดงว่ายอดขายสินค้ายังดีอยู่ แต่มาร์จิ้นลดลงเพราะปัญหาฝั่งต้นทุน ดังนั้นหากบริษัทมีแผนปรับราคาสิ้นค้าขึ้น คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $164.71
- Home Depot (HD) +1.7% หลังเผยงบ F1Q23 รายได้โต 3.8%YoY แตะ $38.9bn และกำไรต่อหุ้นที่ $4.09 โต 6%YoY ดีกว่าตลาดคาด หนุนจากยอดขายสาขาเดิมที่โต 2.2%YoY โดยบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตามปีบัญชี 66 สู่ 3%YoY จากครั้งก่อนที่คาดไว้เพียงโตเป็นบวก และกำไรต่อหุ้นสู่ราว 5%YoY จาก 1-3%YoY ก่อนหน้านี้ ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $367.15
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งฟื้นต่อ 3.3% นำโดยกลุ่มเทคฯ Alibaba (9988) +7.0%, Meituan (3690) +6.2% และ Tencent (0700) +5.3% หลังทางการจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการควบคุมบริษัทเทคฯ จีนลง นอกจากนี้เซี่ยงไฮ้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่นอกเขตกักติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ส่งผลให้บางธุรกิจ เช่น ห้างฯ ร้านขายยา กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง และยังมีแผนคลายล็อกดาวน์ส่วนอื่นเพิ่มเติมในวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งจะช่วยหนุนภาคการบริโภคและการบริการ
- JD.com (9618) เผยงบ 1Q22 รายได้โต 18%YoY แตะ RMB239.7bn สูงกว่าตลาดคาด และขาดทุน RMB3bn ต่ำกว่าตลาดคาด โดยรายได้หนุนจากยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 17%YoY เนื่องจากผู้คนจับจ่ายในช่วงการล็อกดาวน์ ขณะที่จำนวนผู้ใช้งาน active โต 16.2%YoY สู่ 580 ล้านราย ทั้งนี้เรามีมุมมองบวกต่อหุ้นมากขึ้น หลังทางการจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการควบคุมบริษัทเทคฯ จีนลง ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ HKD351.52
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN ฟื้นเด่น 4.8% หลัง ก.ล.ต. เวียดนามลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ NYSE เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับตลาดหุ้นเวียดนามให้มีความเป็นสากลมากขึ้น โดยหุ้นจำนวนกว่า 30% ในดัชนีปิดชน ceiling เช่น BID, MWG, FPT และ DGW นอกจากนี้ทางตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ยังกลับมาให้ข้อมูลซื้อขายของ proprietary trading ของเหล่าโบรกเกอร์ในวันนี้ หลังหยุดเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ไปตั้งแต่เดือน มี.ค. แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ตลาดหุ้นมีความโปร่งใสมากขึ้น
- HPG ที่มีสัดส่วน 7.7% ในดัชนี VN30 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 ประกาศลดราคาขายเฉลี่ยเหล็กลงเป็นครั้งที่สองของเดือน พ.ค. โดยราคาเหล็กเส้นลดลง 4.6%MTD และราคาเหล็กเสริม (Rebar) ลดลง 3.2%MTD หลังความต้องการในประเทศเริ่มลดลง และราคาต้นทุน เช่น แร่เหล็ก เศษเหล็กเริ่มปรับลดลง อย่างไรก็ดีเราคาดว่าความต้องการเหล็กในต่างประเทศจะเริ่มสูงขึ้น หลังจีนผู้ซึ่งบริโภคเหล็กคิดเป็น 55% ของโลก มีแผนคลายล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้









