KS Daily View 18.05.2022 >> หุ้นปรับขึ้นต่อสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่กลับเป็นขาขึ้นระยะยาว/ Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเซีย SET วันนี้คาด 1620-1630 จุด หุ้นแนะนำ GLOBAL, ORI

ต่างประเทศ : KS ยังคงมุมมองเดิมคือ ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกยังมีโมเมนตัมบวกและคาด Rebound ต่อเห็นได้จากเมื่อคืน นักลงทุนยังเดินหน้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงส่งผลให้ ดัชนี S&P500 +2%DoD, ดัชนี Nasdaq +2.7%DoD, ดัชนี DAX+1.6%ฯลฯ เป็นผลจากครึ่งเดือนแรก ตลาดหุ้นโลกปรับฐานจากปัจจัยลบทั้ง Real yield + ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยฯ และทำ QT ฯลฯ และในช่วงสั้นยังมีข่าวบวกสนับสนุนการปรับขึ้น อาทิ 1.) เมื่อคืนสหรัฐรายงานยอดค้าปลีก เดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% MoM และ 8.2%YoY 2.)การประชุม CPPCC รองนายกรัฐมนตรีจีน นาย Liu He เผยกับผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีจีนในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการเข้าจดทะเบียนของบริษัทในกลุ่ม digital economy ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น Tech จีน อย่างไรก็ตามยังคงมุมมองว่า ตลาดหุ้นโลกจะยังไม่กลับเป็นขาขึ้น คาดสัปดาห์ถัดไปและเดือน มิ.ย. ตลาดยังมีแนวโน้มแกว่งตัว ประเมินในรอบนี้เป็นเพียงการ Rebound เปิดทางให้นักลงทุนเก็งกำไรช่วงสั้น

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ : ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดที่ US$112.6/bbl (-1.4% DoD) ปรับลงจาก Supply ฝั่งเวเนซุเอล่าจะกลับมา ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าประธานาธิบดีโจไบเดนจะอนุญาตให้ บริษัทน้ำมันเชฟรอนของสหรัฐเจรจากับรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัสมาดูโรของเวเนซุเอลาโดยยกเลิกการคว่ำบาตรชั่วคราว KS คาด supply เพิ่มช่วงสั้นแต่จะไม่กลับมามากเพราะเวเนซุเอลาขาดการลงทุนมานาน น้ำมันที่ลงถือเป็น Sentiment ลบต่อ PTT PTTEP แต่ Sentiment จะบวกต่อหุ้น Anti Commodity อาทิ (PTG EPG, SCGP, BGRIM,GULF, OR, AAV, BA) โดยทิศทางราคาน้ำมัน KS ยังคงมุมมองระยะยาวยังมี Downside ทางลง ช่วงสั้นจะผันผวนขึ้นลงแรงรายวัน

อัตราแลกเปลี่ยน : สกุล Dollar แนวโน้มกลับมาอ่อนค่าติดต่อกัน 3 รวม 2% ล่าสุดอยู่ที่ 103.3 จุด ไม่ผ่าน 105 จุด KS มองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นฝั่งประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะเอเซีย อีกฝั่งนึงคือ ทำให้ทิศทางค่าเงินบาทระยะสั้นชะลอการอ่อนค่าหรือกลับมาแข็งค่า ล่าสุด อยู่ที่ 34.5 บาท ช่วงสั้นเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก แต่จะบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า

ในประเทศ : เมื่อวานมีรายงาน 1.)ตัวเลข GDP งวด 1Q22 ของไทยสภาพัฒน์ฯประกาศ ออกมา 2.2%YoYดีกว่าตลาดคาด 1.7% (หลักๆมาจาก การบริโภค(c) +3.9%,การใช้จ่ายรัฐ + 4.6%YoY, ส่งออกสินค้า + 10.2%) Key highlight KS ให้น้ำหนักคือ สภาพัฒน์ Downgrade GDP ไทยทั้งปีลงมาเหลือ 3% จากเดิม 4% ประเมินลบ เล็กน้อยแต่ตัวเลขใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดก่อนหน้า ส่วนปัจจัยบวก คือ การปรับเพิ่มสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวปรับขึ้นเป็น 7 ล้านคน จาก 5 ล้านคน KS มองเป็นบวกกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน โรงพยาบาลเน้นผู้ป่วยต่างชาติ 2.) สรุปการรายงานงบงวด 1Q22 ของบริษัทเมื่อวาน บริษัทที่ประกาศงบออกมาดีกว่า KS คาด (Beat Estimate) คือ YGG, LHSC, CK ประเมิน Sentiment บวกต่อราคาหุ้น ส่วนบริษัทที่รายงานงบต่ำคาด(Miss) คือ (SEAFCO, CENTEL, SPA, KEX, STEC, TRUE) ประเมิน Sentiment ลบต่อราคาหุ้น

กลยุทธ์การลงทุน : KS ประเมินตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือสัปดาห์นี้ยังมีทิศทางเชิงบวกเปิดโอกาสให้เก็งกำไรต่อ แต่แนวต้านคาด 1630 และ 1666 จุด แนะนำลงทุน

1.) กลุ่มเปิดเมือง อาทิ BEM, CENTEL,OR, PTG, D, AMATA

2.) กลุ่ม Growth เก็งกำไรเน้น Rebound อาทิ SINGER, BE8

3.) กลุ่ม Defensive อาทิ BH, BDMS ADVANC, AP

4.) กลุ่มโรงกลั่น แนะนำ SPRC

ส่วนกลุ่มที่ยังคงแนะนำชะลอการลงุทุนในช่วงนี้ คือ

1.) กลุ่มปิโตรเคมี,อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์

2.) หุ้นกลาง-เล็กที่ PE สูง

มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1620 -1630 จุด หุ้นแนะนำ GLOBAL, ORI

Top pick :

  • GLOBAL (ราคาพื้นฐาน 26.0 บาท) เราประเมิน GPM ไตรมาส 2/2565 จะดีขึ้น QoQ จากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นและการส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังลูกค้า โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside สูงราว 18% จากราคาทางพื้นฐาน และราคาหุ้นปัจจุบันยังมีโมเมนตัมเชิงบวก
  • ORI (ราคาพื้นฐาน 13.8 บาท) เราชื่นชอบจากในปีนี้คาดทุกหน่วยธุรกิจ ORI จะมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยการโอน backlog ก้อนใหญ่และโครงการใหม่จำนวนมากที่วางแผนไว้ในไตรมาส 2-4/2565 จะขับเคลื่อนกำไรให้เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการปรับราคาบ้านยังทำได้ นอกจากนี้โครงการ JV ใหม่ 6 แห่งในไตรมาส 1/65 คาดว่าไตรมาส 2-4/65 จะมีโครงการ JV ใหม่อีกมาก

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตามตัวเลข GDP งวด 1Q22 ของญี่ปุ่นคาด -1.8%YoY จาก 4.6%YoY ในไตรมาสที่ 4, ติดตามถ้อยแถลงประธาน Fed ของนาย Powell และคณะกรรมการ Fed “Mester”, ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของยุโรป เดือน เม.ย. คาด 5%YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
  • วันพฤหัสบดี ติดตามการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงาน (Employment Change) (เม.ย.) ตลาดคาด 4 หมื่นตำแหน่ง จาก 1.79 หมื่นตำแหน่งในเดือน มี.ค. ติดตามยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (เม.ย.) ของสหรัฐ ตลาดคาด 5.65 ล้านหลัง จาก 5.77 ล้านหลัง ในเดือน มี.ค.
  • วันศุกร์ ติดตามยอดขายปลีกของอังกฤษ เดือน เม.ย., ติดตามดัชนีผู้ผลิต (PPI) เยอรมนี เดือน เม.ย. คาด 31.5%YoY ติดตามธนาคารกลางจีนจะตัดสินใจปรับเพิ่มหรือลด Loan Prime
- Advertisement -