บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Mega Lifesciences (MEGA TB) อาหารเสริมเพื่อสุขภาพหนุนกำไร

คงแนะนำ ซื้อ เพิ่ม TP เป็น 66 บาท หุ้นเด่นของเรา

ในไตรมาส 1/65 MEGA รายงานกำไรหลักที่ 627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% QoQ และ 77% YoY และสูงกว่าเราและตลาดคาดไว้ประมาณ 50% โดยได้แรงหนุนจาก 1) การเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง (17% QoQ และ 33% YoY) ในธุรกิจแบรนด์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและยารักษาโรค) และ 2) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งช่วยหนุนยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดย MEGA ทำรายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศประมาณ 80% ส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า จากคาดการณ์ใหม่ของผู้บริหารที่ตั้งเป้ายอดขายเติบโตหลักเดียวในปีนี้ เราคาดการณ์การเติบโตของยอดขายโดยรวม 9% ในปี 65 (แบรนด์โต 16% YoY และธุรกิจจัดจำหน่าย 3% YoY) เทียบกับเพียง 1.5% ในการประมาณการครั้งก่อนของเรา เรายังเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นของเราเป็น 43.1% ในปี 65 (จากเดิม 41.6%) เนื่องจากยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจแบรนด์ที่มีกำไรมากกว่า ด้วยเหตุนี้ เราจึงเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นของเราขึ้น 17% ในปี 65 และ 16% ในปี 66 ซึ่งส่งผลให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 20% เป็น 66 บาท

รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อน

ยอดขายของ MEGA ประมาณ 80% เป็นสกุลเงินต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น MEGA จึงรับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยค่าเงินบาท YTD อ่อนค่าลง 4% เมื่อเทียบกับ USD ขณะที่ในเมียนมาร์ซึ่งประสบวิกฤตเศรษฐกิจ รายได้ของบริษัทยังเป็นดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น MEGA ยังได้ประโยชน์จากค่าเงินจากที่อ่อนตัวเมื่อเทียบกับ USD ทั้งนี้ เมียนมาร์เป็นตลาดหลัก (สัดส่วนรายได้ 75%) ในธุรกิจจัดจำหน่ายและเรามองเป็นความ เสี่ยงที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่ายอดขายในเมียนมาร์ได้ผ่านจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 64 และในปีนี้เราคาดว่าสัดส่วนธุรกิจจัดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้น 3% YoY จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นในการเติบโตของยอดขาย 2% YoY ในไตรมาส 1/65

แนวโน้มระยะยาวยังแข็งแกร่ง ไม่กระทบ

ผู้บริหารตั้งเป้ากำไรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 62-68 ซึ่งเรามองว่าเป็นไปได้ แม้จะคาดการณ์ว่ากำไรปี 65 จะชะลอตัวก็ตาม ในอดีต MEGA ประสบความสำเร็จในการเติบโตของกำไรสองหลักทุกปี เนื่องจากลูกค้าภักดีต่อผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้า และความเป็นผู้นำของ MEGA ในส่วนธุรกิจจัดจำหน่ายที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเมียนมาร์ กัมพูชา และเวียดนาม เราคาดว่ากำไรหลักจะแตะ 2.9 พันล้านบาทในปี 68 เพิ่มขึ้นจาก 1.2 พันล้านบาทในปี 62

หุ้นเด่นในกลุ่มดูแลสุขภาพ เมียนมาร์เป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก

เราใช้วิธี DCF, WACC 8% และการเติบโตของเทอร์มินัล 3% ประเมินมูลค่าหุ้น โดยหุ้น MEGA ซื้อขายที่ P/E ปี 65 ที่ 19.1 เท่า ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการด้านสุขภาพในภูมิภาค ขณะที่บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวที่แข็งแกร่ง ความเสี่ยงที่สำคัญคือเมียนมาร์ ที่ยังคงเผชิญกับสภาวะทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ท้าทาย

- Advertisement -