บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Tipco Asphalt (TASCO) ฟื้นตัว แต่กำไรยังแย่ ลดเกรด

Company Update

ปรับลดกำไรปี 2565 ลง 47% จากต้นทุนน้ำมันดิบแพง

กำไร 1Q65 ทรุดหนัก จากต้นทุนน้ำมันดิบแพง แนวโน้มจะดีขึ้นหลังราคายางมะตอยเพิ่มสูงขึ้น แต่ต้นทุนน้ำมันดิบในระดับสูงจะกดดันกำไรยังแย่ TASCO มีแผนจะสั่งซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่นอีก 4 Cargo ทำให้ยังตั้งเป้าหมายปริมาณขาย 1.2 ล้านตัน ใกล้ปีก่อน ผลของราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูงเกิน 100 เหรียญ/บาร์เรล เราปรับประมาณการกำไรลดลงอีก 47% ทำให้ราคาเป้าหมายลดลงจาก 19.50 บาท เหลือ 14 บาท บนฐานค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/E+1SD = 14.5 เท่า ตามดัชนีกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (ใช้กำไรเฉลี่ยปี 2565 และ 2566 เนื่องจากปี 2565 เป็นปีที่น้ำมันสูงผิดปกติ) และเราลดเกรดคําแนะนําจาก ถือ เป็น ขาย

กำไร 1Q65 ทรุดหนักจากต้นทุนน้ำมันดิบแพง

TASCO ประกาศผลประกอบการ 1Q65 มีกำไรทรุดหนักเหลือเพียง 216 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 61%QoQ และปีก่อน 49%YoY ถูกกระทบจากปัญหาต้นทุนน้ำมันดิบแพง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 6.5% จาก 12.8% ในไตรมาสก่อน และ 13.8% ในปีก่อน จากปัญหาต้นทุนน้ำมันดิบแพง

ผู้บริหารคงเป้าหมายปริมาณขาย 1.2 ล้านตัน ใกล้ปีก่อน

ผู้บริหารยังคงเป้าหมายปริมาณขายยางมะตอยในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านตัน ใกล้เคียงปีก่อนที่มีปริมาณขาย 1.24 ล้านตัน โดยจะกลั่นยางมะตอยเองประมาณ 40% อีก 65% จะซื้อจากโรงกลั่นรายอื่น ราคายางมะตอยปัจจุบันอ้างอิง Argus ที่สิงคโปร์ ปรับตัวสูงขึ้น 550 เหรียญ/ตัน จากราคาเฉลี่ยใน 1Q65 เท่ากับ 463 เหรียญ/ตัน และราคาเฉลี่ยใน 4Q64 เท่ากับ 425 เหรียญ/ตัน ซึ่งเป็นระดับที่มีกำไรเมื่อเทียบกับต้นทุนน้ำมันดิบ ปัจจุบัน ดังนั้น TASCO จึงวางแผนจะสั่งซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่น 4 Cargo ประเด็นเวเนซุเอลาถูกแซงก์ชั่น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบหลักของ TASCO ในอดีต ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังไม่ผ่อนคลาย ทําให้ TASCO ยังต้องหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น

2Q65 จะฟื้นตัวแต่กำไรยังต่ำ ปรับประมาณการลดลง กำไรปีนี้จะทรุดหนัก

แนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 จะดีขึ้น จากราคาขายยางมะตอยที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลาดในประเทศจะยังมีการเบิกจ่ายงบประมาณสูง ตลาดต่างประเทศจะเริ่มเข้าสู่ฤดูขาย (Working Season) นอกจากนี้ตัวเลข Hedging loss ที่ปรากฏในไตรมาสแรกจำนวน 531 ล้านบาท จะบวกกลับมาได้บางส่วนหลังจากที่ขายสินค้าออกไปจริงๆ แต่เราคาด กำไรจะยังอ่อนแอประมาณ 250-300 ล้านบาท ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเผชิญกับต้นทุนน้ำมันดิบในระดับสูง ปี 2565 เราปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 7.8% จากเดิม 13.4% และปรับกำไรลดลง 47% ลงเหลือ 1,134 ล้านบาท ทรุดลง 49%

- Advertisement -