KS Daily View 19.05.2022 >> ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่ง กดดันหุ้นไทย เน้นหุ้น Defensive มีปัจจัยหนุนบวกหนุน SET วันนี้คาด 1585-1610 จุด หุ้นแนะนำ ADVANC

ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนปรับฐานแรงหลังจาก Rebound ในช่วงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยดัชนี Dow Jones -3.5%DoD, ดัชนี S&P500 -4.04%DoD(กลุ่มสาธารณูปโภค -1.0%, กลุ่มพลังงาน -2.5%, กลุ่ม healthcare -2.6%, กลุ่มการเงิน -2.8%,กลุ่ม IT -4.3% กลุ่มสินค้าจำเป็น -4.8%, กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย-6.2% (Tesla -6.8%), ดัชนี Nasdaq -4.73%) โดยปัจจัยกดดันมาจากตลาดกังวลดอกเบี้ยขาขึ้นจากสหรัฐ, เงินเฟ้อที่สูง ฯลฯ โดยเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ค่าเงิน Dollar และ พันธบัตร สะท้อน Bond Yield สหรัฐ 2 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 2.65% และอายุ 10 ปี ปรับลงมาอยู่ที่ 2.86% แนวโน้ม Bond Yield ที่ปรับลง ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มการเงิน (SAWAD, MTC,TIDLOR, MICRO ฯลฯ) โดยรวมประเมินเป็น Sentiment ลบต่อตลาดหุ้นเอเซียในวันนี้

อัตราแลกเปลี่ยน : สกุล Dollar กลับมาแข็งค่า ล่าสุดอยู่ที่ 103.7 จุด KS ประเมินเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นฝั่งประเทศกำลังพัฒนา อีกฝั่งนึงคือ ทำให้ทิศทางค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ล่าสุด อยู่ที่ 34.6 บาท ช่วงสั้นเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าแต่จะบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก อาทิ ASIAN, CPF,TU, GFPT, CBG ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ : ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดที่ US$108.6/bbl (-2.9% DoD) ปรับลงติดต่อ 2 วันติดจากความกังวล Supply ฝั่งเวเนซุเอล่า และฝั่งสหรัฐจะกลับมา ล่าสุด มีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐเร่งเพิ่มการผลิตเพื่อรับมือกับสต็อกที่ลดลง แนวโน้มน้ำมันที่ลงถือเป็น Sentiment ลบต่อ PTT PTTEP แต่ Sentiment จะบวกต่อหุ้น Anti Commodity (PTG, EPG, SCGP, BGRIM,GULF, OR, AAV, BA)

ในประเทศ : ประเด็นสำคัญในช่วงนี้ยังคงเป็นช่วงการประชุมนักวิเคราะห์ บริษัทที่ KS ทำการศึกษาและมีมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมเมื่อวาน อาทิ (CENTEL, BANPU, TVO, BEM, TIDLOR, SABINA, BJC, PTG) KS ประเมิน Sentiment บวกต่อราคาหุ้น ส่วนบริษัทที่มุมมองกลางๆ (MICRO, SAT, OR, CHG, RJH)

กลยุทธ์การลงทุน : KS ประเมิน SET Index เมื่อวาน Rebound แต่ไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,630 จุด ประเมินแนวโน้ม Rebound รอบนี้จะแกว่งตัวลง (Sideway down) โดยวันนี้คาดได้รับ Sentiment ลบจากต่างประเทศ คาดแนวรับสำคัญรอบนี้ประเมินอยู่ที่ 1585 จุด โดยในช่วงตลาดผันผวนแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่ม Defensive และมีปัจจัยบวกหนุน อาทิ

1.) กลุ่มเปิดเมือง อาทิ BEM, CENTEL,OR, PTG, D, AMATA

2.) กลุ่ม Growth เก็งกำไรเน้น Rebound อาทิ SINGER, BE8

3.) กลุ่ม Defensive อาทิ BH, BDMS, ADVANC, AP

4.) กลุ่มโรงกลั่น แนะนำ SPRC

5.) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (ASIAN, CPF, GFPT,CBG

ส่วนกลุ่มที่ยังคงแนะนำชะลอการลงุทุนในช่วงนี้ คือ

1.) กลุ่มปิโตรเคมี,อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์

2.) หุ้นกลาง-เล็กที่ PE สูง

มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1585-1610 จุด หุ้นแนะนำ ADVANC

Top pick :

  • ADVANC (ราคาพื้นฐาน 233 บาท) ปัจจัยหนุนราคาคือ 1) การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน 2) การควบรวมตลาดเน็ตบ้านที่อาจเกิดขึ้นและ 3) สภาพแวดล้อมการแข่งขันมือถือที่ดีขึ้นจากการควบรวมระหว่าง DTAC และ TRUE ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรปกติในปี 2565-2567 ตามเดิมเนื่องจากเราคาดว่าโมเมนตัมของเศรษฐกิจจะดีขึ้นและสภาพแวดล้อมของการแข่งขันจะผ่อนคลายในไตรมาสต่อๆ ไป ในเชิงราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ ADVANC -5% ยัง laggard เทียบกับ DTAC -3% , TRUE -5% และ SET index -2.2% โดยราคาหุ้นซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2565 ที่ 8.89 เท่า ซึ่งอยู่ที่ค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดี ติดตามขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (Initial jobless claim) ตลาดคาด 2 แสนตำแหน่ง ติดตามยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (เม.ย.) ของสหรัฐ ตลาดคาด 5.65 ล้านหลัง จาก 5.77 ล้านหลัง ในเดือน มี.ค.
  • วันศุกร์ ติดตามยอดขายปลีกของอังกฤษ เดือน เม.ย., ติดตามดัชนีผู้ผลิต (PPI) เยอรมนี เดือน เม.ย. คาด 31.5%YoY ติดตามธนาคารกลางจีนจะตัดสินใจปรับเพิ่มหรือลด Loan Prime ,ติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นเดือน เม.ย. คาด +1.5% YoY
- Advertisement -