บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (Upside) +6.8%
Close May 18, 2022 Price (THB) 40.25
12M Target(THB) 43.00
Previous Target (THB) 43.00
What’s new?
- เรามีมุมมองเป็นกลางจากการประชุม แนวโน้ม 2Q65 ธุรกิจอาหาร SSSG ฟื้นตัวเด่น และธุรกิจโรงแรม Occ. Rate ดีที่สุดตั้งแต่เกิด COVID-19 ขณะที่แนวโน้มยังดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H65
- อย่างไรก็ดีต้องระวังแรงกดดันด้านต้นทุน Raw Material ที่จะเริ่มกดดันมากขึ้นตั้งแต่ 2Q65
Our view
- เราคงประมาณการและราคาเหมาะสม ณ สิ้น ปี 2565 ที่ 43.00 บาทต่อหุ้น การฟื้นตัวเด่น แต่ Valuation ตึงตัวแล้วสําหรับปี 2565
- หากมองข้ามไปปี 2566 ถึงสมมติฐานกำไรกลับสู่ระดับฐานปี 2562 และหุ้นซื้อ ขาย ที่ค่าเฉลี่ยในอดีต ราคาหุ้นไปได้ราว 47.00-50.00 บาทต่อหุ้น มี Upside แต่ไม่มากแล้ว ณ ราคาปัจจุบัน เราชอบ SHR มากกว่า
CENTRAL PLAZA HOTEL มุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์
สรุปสาระสำคัญการประชุมนักวิเคราะห์ ดังนี้
ธุรกิจโรงแรม: เม.ย.65 ดีที่สุดตั้งแต่เกิด COVID-19 จากนั้นชะลอตัว … 2H65 เด่นอีกครั้ง
1) โรงแรมใน Port เดิมที่ยังปิดบริการอยู่เหลือเพียง 2 โรง คือ เซ็นทารากะตะรีสอร์ท ภูเก็ต และโคซี่สมุย แต่มีแผนจะกลับมาเปิดภายใน 3Q65 ทำให้โรงแรมที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจะกลับมาเปิดครบทั้ง 19 โรง CENTEL มี EBITDA margin ที่อ่อนแอลง QoQ หลักๆ มาจากต้นทุนอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น เพราะกลับมาดำเนินงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น กลับมาจ่ายค่าจ้างพนักงานที่เคย Leave without pay เป็นต้น
2) แผนการเปิดโรงแรมใหม่คงเดิม โรงแรมที่บริหารจัดการเองปี 2566 จะเปิดที่ญี่ปุ่น 515 ห้อง ปี 2567 เปิดที่ Maldives 165 ห้อง และเปิดในไทย 130 ห้อง ขณะที่แผนปี 2568 Maldives จะเปิดอีก 145 ห้อง สะท้อนว่า CENTEL จะมี Capacity Growth เข้ามาหนุนต่อเนื่องในช่วง 3 ปีจากนี้
3) แนวโน้มระยะสั้น เดือนเม.ย.65 โรงแรมในไทย Occ. Rate ดีที่สุดตั้งแต่มี COVID-19 คาดหวังที่ระดับ 60%-70% ในบางพื้นที่ ขณะที่โรงแรมใน Maldives เข้าสู่ Low Season ทำให้ลดลง QoQ แต่ยังมียอดจองที่ดี เช่นเดียวกับ Dubai ขณะที่เดือนพ.ค.-มิ.ย. 65 Occ. Rate อ่อนตัวลง MoM
ธุรกิจอาหาร: SSSG ฟื้นตัวดีมาก ขาต้นทุนยังพอเอาอยู่ … แต่ต้องระวังระยะถัดไป
4) ธุรกิจอาหารคาด SSSG เดือนเม.ย.65 +20% ขณะที่เดือนพ.ค.65 TSS คาดโต 30%-40% แข็งแกร่งมาก แต่ขาของต้นทุนจะเริ่มเห็นผลของ Inflation ใน Raw Material มากขึ้น เพราะ 1Q65 ยังมีผลบวกจากการกักตุน Raw material ไว้ล่วงหน้า เบื้องต้น CENTEL ยังบริหารจัดการต้นทุนได้ไม่กระทบกับ GPM จากการทยอยปรับเพิ่มราคาขายของแบรนด์หลัก เช่น KFC เป็นต้น อย่างไรก็ดี แรงกดดันด้านต้นทุนยังเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามในระยะถัดไป
5) การซื้อกิจการ Shinkanzen Sushi และ Senma Sushi ปัจจุบัน CENTEL ถือ 51% และจะรับรู้รายได้ด้วยวิธี Equity Method คาดรายได้ราว 800-1,000 ล้านบาทในปี 2565 มี Margin ใกล้เคียงกลุ่ม โดย CENTEL มีแผนจะขยายจำนวนสาขาจาก 38 สาขาในปัจจุบันเป็น 60-70 สาขาในช่วง 3 ปีจากนี้
Guidance 2565: คง Guidance และใกล้เคียงกรอบประมาณการของเรา
6) บริษัทฯ คง Guidance ธุรกิจโรงแรม Occ. Rate 40%-50% Revpar ราว 1.7-1.9 พันบาทต่อคืน ธุรกิจ อาหาร SSSG +10%-15% YoY และจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นราว 180-200 สาขา และคงการใช้จ่าย CAPEX ที่ระดับต่ำกว่า 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอาหาร 800 ล้าน และธุรกิจโรงแรมราว 2 พันล้านบาท
7) ขณะที่ Interest bearing debt excluding lease liability to equity อยู่ที่ 0.9% มีความแข็งแกร่งทาง การเงินเพียงพอไม่ต้องกังวลกับการขยายกิจการ
คงคำแนะนำ “TRADING” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2555 ที่ 43.00 บาท
เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุม เราคาดผลประกอบการ 2Q65 จะฟื้นตัวกลับมาทำกำไรปกติไม่ยาก และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องใน 2H65 ทำให้เราคงประมาณการปี 2565 ที่ 658 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี Valuation ตึงตัวทำให้เราคงคำแนะนำ “TRADING” อิงราคาเหมาะสม 43.00 บาทต่อหุ้น (EV/EBITDA ที่ 14x หรือ +1.0SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) หากมองระยะยาวขึ้น เราสมมติให้กำไรกลับสู่ระดับฐานปี 2562 และ CENTEL ถูกตลาดกลับมาซื้อ ขาย เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต จะคิดเป็นราคาเหมาะสมใน Modeling ของเราที่ราว 47.00-50.00 บาทต่อหุ้น จะเริ่มมี Upside ชัดเจนจากระดับราคาปัจจุบัน แต่ยังเร็วเกินไปที่จะ Price In กรณีดังกล่าวในมุมมองของเรา
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าคาดการณ์ 2) ราคาต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น และ 3) ภาวะสงครามรัสเซีย ยูเครนลากยาว และบานปลายจนทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก








