บล.พาย:

OR: ยอดขายโตอัตรากำไรดีใน 2Q22

ให้น้ำหนักเป็นบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 18 พ.ค. คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 27.0 บาท คำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) ถึง 25xPE’22E หรือคิดเป็นส่วนลด 10% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในไทย

  • คาดกำไร 2Q22 ปรับดีขึ้น YoY และ QoQ หนุนจากยอดขายน้ำมันที่โตต่อเนื่อง และค่าการตลาดค้าปลีกที่ แข็งแกร่ง
  • คาดกำไรใน 2H22 จะปรับดีขึ้น YoY จากยอดขายที่โตดีขึ้น แต่ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันอาจมี downside risk เพราะราคาน้ำมันดิบยั่งยืนในระดับสูงต่อเนื่อง
  • แผนด้านงบลงทุนยังคงเดิม ด้วยแผนการเพิ่มปั๊มน้ำมันอีก 129 แห่ง (+6% YoY) และร้าน Café Amazon อีก 389 สาขา (+11% YoY) ในปี 2022

2Q22 มีภาพรวมเป็นบวกจากยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

  • ประเด็นค้างคาเรื่องค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลงแตะจุดต่ำรอบ 6 ไตรมาสที่ 0.98 บาท/ลิตร ใน 4Q21 (-6% YoY, -10% QoQ) มาถึงตอนนี้ได้ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว 21% QoQ ใน 1Q22 ปริมาณขายน้ำมันจากกลุ่มค้าปลีกและพาณิชย์ปรับสูงขึ้นจากการกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น (ชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น) บวกกับอุปสงค์ที่ดีขึ้นเพราะการเดินทางในประเทศและภาคอากาศยานฟื้นตัวขึ้น หลังเผชิญกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มานานถึง 2 ปี
  • คาดกำไร 2Q22 ปรับดีขึ้น YoY และ QoQ จากยอดขายที่โตขึ้นต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง หลังมีการผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 รวมถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวและการบริโภคเชื้อเพลิงอากาศยานที่ปรับสูงขึ้น ขณะที่คาดว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะทรงตัว QoQ เพราะบริษัทเริ่มปรับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เพื่อให้ราคาขายสะท้อนต้นทุนน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น
  • คาดกำไรใน 2H22 จะปรับดีขึ้น YoY จากยอดขายที่โตดีขึ้น แต่ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันอาจมี downside risk เพราะราคาน้ำมันดิบยั่งยืนในระดับสูงต่อเนื่อง โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2022 ที่ 1.18 หมื่นล้านบาทคิดเป็นการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ +13% YoY คาดค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะยังทรงตัว YoY ที่ 1.15 บาท/ลิตร ขณะที่คาดว่ายอดขายน้ำมันและอาหารและเครื่องดื่มจะปรับดีขึ้น ขึ้น 10% และ 15% ตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มปั๊มน้ำมันอีก 129 แห่ง (+6% YoY) และร้าน Café Amazon อีก 389 สาขา (+11% YoY) ในปี 2022

คงคำแนะนำ “ถือ” รอให้ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันปรับดีขึ้น

  • แม้คาดว่ายอดขายน้ำมันและอาหารและเครื่องดื่มจะปรับดีขึ้นในปี 2022 แต่ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ทรงตัวจะบั่นทอนการเติบโตของกำไรโดยรวมลง ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง (EIA ประเมินราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยที่ US$103/bbl ในปี 2022 หรือ +45% YoY) ก็จะกดดันอัตรากำไรของน้ำมัน เพราะรัฐบาลยังคงควบคุมราคาขายปลีก โดยเฉพาะดีเซลเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่มาจากต้นทุน
  • คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 27.0 บาท คำนวณด้วยวิธี SOTP แบ่งเป็นมูลค่า 15.0 บาท (12X EV/EBITDA) จากธุรกิจน้ำมัน และ 12.0 บาท (24XEV/EBITDA) จากธุรกิจอื่นนอกจากน้ำมัน (non-oil) มูลค่าพื้นฐานนี้ถึง 25xPE’22E หรือคิดเป็นส่วนลด 10% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น

สรุปผลประกอบการ

  • กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท ( -4% YoY, +63% QoQ) ซึ่งออกมาดีกว่าคาด ด้วยแรงขับเคลื่อนจากปริมาณขายน้ำมันที่สูงกว่าคาด โดยกำไร 1Q22 คิดเป็น 33% ของประมาณการกำไรทั้งปี
  • การเติบโตของกำไร QoQ ได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งที่ดีขึ้นจากธุรกิจการเคลื่อนที่ เพราะมีอัตรากำไรและปริมาณขายที่ดีขึ้น ส่วนกำไรที่ลดลง YoY เป็นผลจากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลงจากการตรึงราคาดีเซล แม้ปริมาณขายจะปรับดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ก็ตาม
  • EBITDA ธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท (-8% YoY, +56% QoQ) ที่ลดลง YoY เป็นเพราะอัตรากำไรที่หดตัวลงจากการตรึงราคาดีเซล ส่วนที่โตขึ้น QoQ เป็นเพราะปริมาณขายน้ำมันที่สูงขึ้น แม้ค่าการตลาดจะลดลงก็ตาม
  • ปริมาณขายน้ำมันใน 1Q22 ปรับดีขึ้นเป็น 6.7 ล้านลิตร (+3%YoY, +24%QoQ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ต่อลิตรก็ปรับเพิ่ม 16% QoQ มาอยู่ที่ 1.14 บาท/ลิตร แต่ลดลง 13% YoY
  • ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) มีผลงานที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง โดย EBITDA ในธุรกิจไลฟ์สไตล์ (กาแฟ ฯลฯ) ปรับเพิ่มเป็น 1.3 พันล้าน บาท (+27% YoY, +13% QoQ) หนุนจากปริมาณขายเครื่องดื่มของ cafe amazon ที่โตขึ้น 14% (สำหรับเชิง YoY) และค่าใช้จ่ายด้านโปรโมชั่นที่ลดลง (สำหรับเชิง QoQ)

Revenue breakdown

ธุรกิจน้ำมัน (คิดเป็น 93% ของรายได้รวม, 76% ของ EBITDA รวม) บริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการทั้งหมด 2,315 แห่ง โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงการบิน  น้ำมันเตาสำหรับเรือ และผู้ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่น และก๊าซหุงต้ม

ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (non-oil) (คิดเป็น 3% ของรายได้รวม, 21% ของ EBITDA รวม) โดยธุรกิจ นี้ประกอบด้วย คาเฟ่อเมซอนจำนวน 3,628 สาขา ร้าน Texas Chicken 96 สาขา และร้านสะดวกซื้อ 2,075 สาขา ที่จำหน่ายอาหารเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานภายใต้แบรนด์ Jiffy ที่บริษัทเป็นเจ้าของ และภายใต้แบรนด์ 7-Eleven นอกจากนี้บริษัท ยังดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่ให้เช่าและบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในสถานีบริการของบริษัทด้วย

ธุรกิจต่างประเทศ (คิดเป็น 6% ของรายได้รวม, 4% ของ EBITDA รวม) นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจที่ใช้ แพลตฟอร์มการค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจ non-oil ในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และลาว

- Advertisement -