บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +22.4%
Close May 19, 2022 Price (THB) 15.20
12M Target (THB) 18.60
Previous Target (THB) 24.90
What’s new?
- แนวโน้มกำไร 2Q65 อาจทําได้เพียงทรงตัว YoY และลดลงเล็กน้อย QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล เพราะมีวันหยุดค่อนข้างมาก ธุรกิจยานยนต์ยังไม่กลับมาปกติ และจีนมีการ Lockdown
- ผลประกอบการจะกลับมาเด่นอีกครั้งใน 2H65 ตามปัจจัยฤดูกาล และการเติบโตของบริษัทร่วม รวมถึงเริ่มมียอดขายที่ดินในนิคมฯ ในกัมพูชา
- ส่วนการ M&A ยังเดินหน้าต่อตามแผน คาดว่าจะเริ่มมีความคืบหน้าใน 3Q65 เป็นต้นไป
Our view
- คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 และยังคงประมาณการกำไรปกติไว้ แต่ด้วยภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น การถอน QE ทำให้สภาพคล่องในระบบน้อยลง ราคาหุ้นจึงควรถูกซื้อ ขายด้วย Valuation ที่ลดลง เราจึงปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงเป็น 30 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 65 ลดลงเป็น 18.60 บาท คงคําแนะนำ ซื้อ
JWD INFOLOGISTICS จะเด่นในครึ่งปีหลัง
แนวโน้ม 2Q65 อ่อนลง QoQ ตามฤดูกาล
คาดกำไรปกติ 2Q65 ของ JWD ที่ราว 105 ลบ. +/- ชะลอตัวราว 6.6%QoQ และทรงตัว YoY เนื่องจากมีวันหยุดยาว ทำให้วันดำเนินงานมีน้อยลง ขณะที่ธุรกิจยานยนต์ยังมีผลกระทบจากการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และการ Lockdown ของจีน แต่ชดเชยได้บางส่วนจากการฟื้นตัวของรายได้จากคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เริ่มกลับมาฝากแช่มากขึ้น จากราคาไก่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการกลับมาเพิ่มการผลิตอีกครั้ง นอกจากนี้ธุรกิจ Barge terminal คาดจะฟื้นตัว QoQ จากที่ชะลอไปใน 1Q65 จากการขัดข้องของอุปกรณ์ ขณะที่รายได้จากธุรกิจอาหารในไต้หวันคาดว่าจะยังคงรักษาระดับกำไรไว้ได้ใกล้เคียงเดิม ซึ่งจะช่วยประคองกำไรให้ทรงตัวได้ YoY
2H65 จะกลับมาเติบโตชัดเจนมากขึ้น
บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้ปี 2565 ที่ 6,000 ลบ. (+17.6%YoY) และสูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ 5,552 ลบ. อยู่ 8.1% เนื่องจากเรายังระมัดระวังต่อสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกที่จะกดดันผลประกอบการของลูกค้าของบริษัทให้อาจมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้มุมมองว่าในช่วง 3Q-4Q65 จะยังคงเป็น High Season เหมือนทุกปี คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่ทำร่วมกับ MMP จะเต็มกำลังการผลิตในช่วงต้น 3Q65 ธุรกิจอาหารในไต้หวันมี High season ใน 4Q65 คาดว่าจะเห็นการทำกำไรทุบสถิติได้ หลังปรับเปลี่ยนทีมบริหารใหม่ ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดว่าจะเติบโตสูงตั้งแต่ 3Q65 เป็นต้นไป ประกอบด้วย 1) TMS มีการเติบโตที่ดีและดีกว่าปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญ 2) ESCO คาดว่าจะเติบโตเช่นกันหลังจาก 1Q65 มีความสามารถในการทำกำไรที่ดี ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากราว 6 ลบ./เดือน ใน 4Q64 เป็น 7 ลบ./เดือน ใน 1Q65 และคาดว่าจะคงโมเมนตัมต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และอยู่ระหว่างการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นอีก 5% เป็น 20% คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 3Q65 และ 3) ธุรกิจนิคมฯ ในกัมพูชาคาดว่าจะเริ่มปิดดีลขายที่ดินได้ใน 3Q65 เป็นต้นไป (ส่วนนี้ยังไม่ รวมในประมาณการ) ขณะที่การขยายกิจการด้วยการ M&A คาดว่าจะเริ่มทยอยชัดเจนและประกาศได้ ใน 3Q65 เป็นต้นไป
คงประมาณการ … คงคำแนะนำ ซื้อ
JWD อาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของลูกค้าชะลอลงบ้าง แต่เรายังคงประมาณการไว้ เนื่องจากที่ประมาณการรายได้ของเรายังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทอยู่ 8% และส่วนแบ่งกำไรจจากบริษัทร่วมเราคาดที่เพียง 307 ลบ. (+38.9%YoY) โดยส่วนแบ่งกำไร 1Q65 คิดเป็นสัดส่วนแล้ว 24.1% และยังไม่รวมกำไรของธุรกิจนิคมฯ ในกัมพูชา จึงคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 632 ลบ. (+20.0%YoY) แต่เพื่อสอดคล้องกับภาวะการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เราปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงจาก 40 เท่า เป็น 30 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ใหม่อยู่ที่ 18.60 บาท มี Upside gain 22.4% คงคำแนะนำ ซื้อ








