Daily Focus: Rebound after test 1500-1520+-

2022SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับลงแรงเกือบ 20 จุด ทดสอบแนวรับหลักบริเวณ 1,520+- จุด หลัง GDP 2Q22 จีนต่ำกว่าคาดและบาทอ่อน ซึ่งอาจทำให้กนง.เร่งขึ้นดอกเบี้ย ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ดัชนีรีบาวด์ได้แข็งแกร่ง และปิดลบเหลือเพียง 3.45 จุด ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.3 พันลบ.และ 1.1 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติยัง Short Index Futures อีกถึง 2.8 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีโอกาสเกิด Technical Rebound ระยะสั้น ในกรอบ 1,530-1,550 จุด หลังจากฟื้นตัวได้ดีช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ ขณะที่บรรยากาศการลงทุนวันนี้ผ่อนคลายขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นและ Inflation Expectation ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น สัปดาห์นี้ต้องติดตาม ECB ที่คาดเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 1 ทศวรรษ ส่วน BoJ คาดยังคงดอกเบี้ย ขณะที่สัปดาห์หน้าเป็นคราวของ FED โดยตลาดคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75-1% อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวระยะกลาง-ยาวคาดว่ายังจํากัด โดยยังต้องตามสถานการณ์เงินเฟ้อและเศรษฐกิจต่อเนื่อง ขณะที่ภาพ Inverted Yield Curve ที่คงอยู่ต่อเนื่องยังสะท้อนความกังวลโอกาสเกิด Recession ปีหน้า สําหรับ Set Index เรายังประเมินแนวรับหลัก 1,500-1,520+- จุดจะทํางานได้ดี และถือรอทํากำไรหลังสะสมหุ้นเพิ่ม และยังเน้นหุ้น Value Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจําเป็น

กลยุทธ์ : คาดหวังการรีบาวด์ระยะสั้นหลังทดสอบบริเวณ 1,500-1,520+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, CPN, GFPT, KTB, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : CBG

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 128 บาท
  • คาดกำไร 2Q22 ฟื้นตัวมาอยู่ที่ 700-800 ลบ. จาก 660 ลบ. ใน 1Q22 แต่ลดจาก 967 ลบ.ใน 2Q21 เพราะต้นทุนผลิตสูงขึ้น ล่าสุดราคาอลูมิเนียม LME -40% จาก High เดือน มี.ค. และต่ำกว่าปีก่อน เป็นบวกต่อต้นทุนใน 4Q22 เป็นต้นไป
  • แนวโน้มกำไร 2H22 น่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อที่ฟื้นในไทย กัมพูชา และจีน ที่ฟื้นช้าๆ ตามการคลาย Lockdown และมีการปรับขนาดขวดให้เล็กลงเป็น 130g จาก 140g ช่วยหนุน GM 1-2% ใน 2H22 FSSIA คาดกำไรปี 2022-2023 +16% Y-Y และ +17% Y-Y ตามลำดับ
  • แนวรับ 112//110 บาท แนวต้าน 116-118//121.50 บาท

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$386 ล้าน โดยกระจุกตัวที่ไต้หวัน US$446 ล้าน แต่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$106 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน แต่ค่อนไปในทางไหลออก นำโดยไทยและเวียดนาม แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ามีโอกาสพลิกมาไหลเข้าจากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้น หนุนเม็ดเงินกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีกว่าคาด ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกนเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 51.1 หลังปรับตัวลง 2 เดือนก่อนหน้า ขณะที่ 5-Year Inflation Expectation เดือน ก.ค. ปรับลงเหลือ 2.8% ทำให้บรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายมากขึ้น และเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ระยะกลาง-ยาวยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง และภาพ Inverted Yield Curve ยังคงอยู่สะท้อนโอกาสการ Recession ที่ยังมีอยู่ในปีหน้า

(+) SC คาดกำไร 2Q22 โตเด่น +47% Q-Q, +10% Y-Y ตามทิศทางยอดขายที่ทำ New High รายไตรมาส  โดยยังมีแรงหนุนหลักจากเน้นขายและโอนแนวราบระดับบนที่แข็งแกร่ง บวกกับอุปสงค์คอนโดที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไร 2H22 จะเร่งขึ้นต่อ Q-Q และ Y Y ในทุกไตรมาส จากการรุกเปิดตัวแนวราบ และเริ่มโอนคอนโดใหม่ 3 แห่งใน 4Q22 คงประมาณการกำไรปีนี้ +15% Y-Y ปัจจุบันหุ้นเทรดบน PE เพียง 5.5 เท่า และ EYG กว้าง 16% สูงกว่าช่วงที่เงินเฟ้อและดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นในอดีต พร้อมคาดให้ปันผลดี 7.3% คงราคาเป้าหมาย 4.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) PR9 คาดกำไร 2Q22 -26% Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาลและสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายขึ้น แต่คาดยังโตแรง 10x Y-Y จากรายได้ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะผู้ป่วยไทยที่ฟื้นตัวสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 แล้ว แนวโน้ม 3Q22 คาดยังโดดเด่นต่อเนื่องจาก High Season และการระบาดของโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ที่เริ่มเร่งตัวอีกครั้ง ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติคาดฟื้นตัวต่อเนื่องตามการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้น เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-2023 ขึ้นเป็น +95% Y-Y ละ +2% Y-Y ตามลำดับ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 18 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 31,288.26 จุด พุ่งขึ้น 658.09 จุด หรือ +2.15% จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการ rebound ในหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มค้าปลีก

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับบวก ตามสภาวะตลาดหุ้นสหรัฐฯ

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบๆ อยู่ที่บริเวณ 36.58 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับเพิ่มขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 97.59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากประเด็นข่าวที่ว่าสหรัฐฯ ไม่คาดหวังว่าซาอุฯ จะเร่งปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน จากการเยือนซาอุฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,703.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,014.28 / -2.61

- Advertisement -