บล.บัวหลวง:

Bank – อัพไซด์จากการขึ้นดอกเบี้ย (OVERWEIGHT) 

เราประมาณการกำไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำปี 2565 ที่ 2.043 แสนล้านบาท เติบโต 14% YoY แต่หากธปท.ขึ้นดอกเบี้ย (Repo rate) มากกว่าที่เราคาด และ/หรือ อัตราดอกเบี้ย MLR ปรับขึ้นไปมากกว่าระดับเงินฝากเฉลี่ย จะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกําไรปี 2566 ของเรา โดยเราให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด และชอบ BBL และ KBANK มากที่สุดในกลุ่ม

คาดปรับอัตราดอกเบี้ย ที่ 25bps

ในวันพรุ่งนี้ เราคาดกนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bps ไป เป็น 0.75% (ซึ่งคงไว้ที่ 0.5% มาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2563) ตลาดก็คาดที่ 25bps เช่นกัน โดยเหตุผลหลักเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงเข้าไปในโซนอัตราเงินเฟ้อหลัก (อ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์ อัตราเงินเฟ้อหลักปรับตัวขึ้นจาก 2.28% YoY ในเดือน มิ.ย. ไปเป็น 2.99% YoY ใน เดือน ก.ค. ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของทาง ธปท.ที่ 2%) สังเกตว่าการประชุม กนง.ในวันที่ 8 มิ.ย. เสียงโหวต แบ่งเป็น 4:3 สําหรับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% (ขณะที่การลงคะแนนเสียงสำหรับการประชุมครั้งล่าสุดอื่นๆ เกือบจะเป็นเอกฉันท์)

อัพไซด์สําหรับกำไรกลุ่มธนาคารจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น…

มีอัพไซด์ต่อประมาณการกําไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้ค่าแนะนําปี 2565 อยู่ราว 0.6% หากพรุ่งนี้อัตราดอกเบี้ยการซื้อขายพันธบัตรปรับขึ้นสูงกว่าที่เราคาดที่ 25bps โดยจากประมาณการของเรา BBL และ SCB จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่สุดจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นที่ 1% และ 0.7% ตามลำดับ นอกจากนี้ปัจจุบันเราคาดอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% ภายในสิ้นปี 2566 หากอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2% ภายในสิ้นปี 2566 จะเป็นอัพไซด์ถึง 1.6% ต่อประมาณการกำไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้คําแนะนําปี 2566 จากประมาณการของเรา BBL และ SCB จะเป็นผู้นำของอัพไซด์ของประมาณการก่าไรสุทธิที่ 3.4% และ 2.2% ตามลำดับ

…..และหาก MLR ปรับขึ้นเร็วกว่าอัตราเงินฝากเฉลี่ย

ทั้งนี้มีความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรรวมกลุ่มธนาคารของเราที่ 0.12% ในปี 2565 และ 0.34% ในปี 2566 หาก MLR และอัตราเงินฝาก (ไม่รวมอัตราเงินฝากในปัจจุบัน) ปรับตัวขึ้น 25bps ทั้งคู่ในไตรมาส 3/65 เราคาด KKP และ TTB จะเป็นผู้ที่ได้รับความเสี่ยงมากที่สุดสําหรับปี 2565 และ 2566 เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อส่วนมากของบริษัทเป็นสัญญาเช่าซื้อยานยนต์ในอัตราที่คงที่

แต่เราคาดธนาคารจะสามารถบรรเทาหรือกลบผลกระทบจากเงินฝากที่มากขึ้น หรืออัตราเงินฝากคงที่ได้ผ่านการปรับขึ้นอัตราการให้สินเชื่อที่เร็วกว่าอัตราเงินฝากเฉลี่ย โดยขึ้นอยู่กับการแข่งขันระหว่างธนาคารเพื่อการระดมเงินทุน และเพื่อปล่อยสินเชื่อลูกค้าให้ ดังนั้น จึงมีอัพไซด์ต่อประมาณการกําไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้ค่าแนะนำราว 0.6% สำหรับปี 2565 และ 1.9% สําหรับปี 2566 หาก MLR ปรับตัวขึ้น 25bps ขณะที่อัตราเงินฝากปรับตัวขึ้นเพียง 20bps สังเกตว่าอัตราสินเชื่อเช่าซื้อปรับตัวขึ้น 25-50bps ในช่วงไตรมาส 2/65 ขณะที่อัตราเงินฝากไม่เปลี่ยนแปลง

- Advertisement -