บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +15.0%
Close Aug 11, 2022 Price (THB) 30.00
12M Target (THB) 34.50
Previous Target (THB) 35.00
What’s new?
- รายงานงบ 2Q65 มีกำไรสุทธิ 5.3 พันล้านบาท (+21% QoQ, +199% YoY) เป็นไปตามคาดที่เราและตลาดประเมินไว้
- ภาพรวมกำไรแข็งแกร่งจากธุรกิจการตลาด – โรงกลั่นเติบโต QoQ และ YoY เพราะ Crack Spread สูงขึ้นทุกชนิด ภาครัฐปรับเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล การคลายมาตรการควบคุม
- ปรับเพิ่มกำไรปี 2565 – 2566 เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท และ 5.2 พันล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนค่าการกลั่น และกำไรสต็อกน้ำมันสูงกว่าคาด
Our view
- แม้ 2H65 จะมีปัจจัยบวกจากการเดินทางระหว่างประเทศฟื้นตัว และอุปสงค์ Gas-to-oil Switching อย่างไรก็ตาม คาดกำไรลดลง HoH จากเศรษฐกิจชะลอตัว, สิ้นสุดฤดูขับขี่, อุปทานใหม่เข้าสู่ตลาด และความเสี่ยงขาดทุนสต็อกน้ำมัน
- Roll-over ไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 34.50 บาท ระยะสั้นสามารถลุ้นเงินปันผล 1H65 ระดับสูง (คาด 1-2 บาท/หุ้น) ทั้งนี้ โมเมนตัมงบ 2H65 ชะลอลง และ YTD หุ้น Outperform คู่แข่งทั้งโรงกลั่น – ปั้ม น้ำมัน ทำให้ Upside จำกัด คงคำแนะนำ TRADING
BANGCHAK CORPORATION ประกาศ 2Q65 ดีตามคาด รอลุ้นปันผลสูง
2Q65 โดดเด่นจากธุรกิจโรงกลั่น และการตลาด
ประกาศกำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 5.3 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด รายการพิเศษ ได้แก่ กำไรสต็อกน้ำมัน 4.3 พันล้านบาท, ขาดทุน Hedging 6.4 พันล้านบาท และขาดทุน FX 516 ล้านบาท ภาพรวม 2Q65 เป็นไตรมาสที่แข็งแกร่ง (+21% QoQ, +199% YoY) สาระสำคัญดังนี้ 1) ธุรกิจโรงกลั่นเติบโต QoQ และ YoY จากการพุ่งขึ้นของ Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด โดยเฉพาะดีเซล ทำให้ค่าการกลั่นเพิ่มเป็น US$24.4/bbl 2) ธุรกิจการตลาดขยายตัว QoQ จากการปรับเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของภาครัฐ ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่เติบโต YoY จากการผ่อนปรนมาตรการควบคุม และอุปสงค์น้ำมัน Jet ฟื้นตัว 3) ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติอ่อนแอลง QoQ จากราคาขายก๊าซไปยังประเทศอังกฤษต่ำลง ทั้งนี้ ยังสามารถเติบโต YoY จากปริมาณขายและการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน – ก๊าซในช่วงที่ผ่านมา 4) ธุรกิจไฟฟ้าลดลง QoQ เพราะไตรมาสก่อนมีกำไรจำหน่าย SEGPL ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการดังกล่าว ผลประกอบการดีขึ้น QoQ และ YoY ตามปริมาณขายจากการ COD โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 3 แห่งช่วง 4Q64 – 2Q65 5) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพต่ำลง QoQ และ YoY จากการปรับแผนการผลิตเอทานอลให้สอดคล้องกับภาวะตลาด, ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น และความผันผวนจากราคา CPO และ B100
ปรับเพิ่มประมาณการปี 2565 – 2566
กำไรสุทธิ 1H65 ทำได้ 9.6 พันล้านบาท ดีกว่าคาดการณ์เดิมของเรา สาเหตุหลักจากค่าการกลั่นและกำไรสต็อกน้ำมันสูงกว่าคาด เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น 103% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท (+53% YoY) และปี 2566 ขึ้น 13% เป็น 5.2 พันล้านบาท (-56% YoY) โดยปรับสมมติฐานหลักปี 2565 ดังนี้ 1) ค่าการกลั่นเป็น US$10.9/bbl (เดิม US$7.0/bbl) 2) กำไรสต็อกน้ำมันเป็น 5.4 พันล้านบาท (เดิม 2.1 พันล้าน บาท) 3) ค่าการตลาดเป็น 0.82 บาท/ลิตร (เดิม 0.70 บาท/ลิตร)
4Q65 GRM มีปัจจัยหนุนจาก Gas-to-oil Switching แต่คาดไม่เด่นเท่า 2Q65
สำหรับ 2H65 แม้ Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปขั้นกลาง (ดีเซล และอากาศยาน) มีปัจจัยหนุนจากโอกาสเกิดอุปสงค์น้ำมันทดแทนอุปทานก๊าซในยุโรปที่ขาดแคลน และการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าปัจจัยบวกข้างต้นไม่เพียงพอชดเชยแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, การสิ้นสุดฤดูขับขี่ของสหรัฐฯ ในเดือนก.ย., อุปทานกำลังกลั่นใหม่ในภูมิภาค, ต้นทุนน้ำมัน Crude Premium สูงขึ้น และความเสี่ยงขาดทุนสินค้าคงคลังจากการพักฐานของราคาน้ำมันดิบ ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง HoH
คงคำแนะนำ TRADING…ระยะสั้นสามารถรอลุ้นเงินปันผลระหว่างกาล
เพื่อสะท้อนมุมมองว่าผลประกอบการผ่านจุดสูงสุดของปีไปแล้วใน 1465 เรา Roll-over ไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 34.50 บาท (เดิม 35.00 บาท) อ้างอิง PBV ที่ 0.9 เท่า ซึ่งให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ย 10 ปี -0.5 SD (เดิมอ้างอิงค่าเฉลี่ยที่ 1.0 เท่า) ระยะสั้นหุ้นมีปัจจัยบวกจากการพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวด 1H65 ระดับสูง (คาดสูง 1-2 บาท/หุ้น) อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมกำไร 2H65 ชะลอลง และนับตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้น BCP +19% Outperform หุ้นโรงกลั่นคู่แข่ง TOP SPRC ที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย +11% และหุ้นสถานีบริการน้ำมัน OR PTG ที่บวกเฉลี่ย +1% ทำให้ Upside gain ไม่จูงใจ ทางพื้นฐานคงคำแนะนำ TRADING







