บล.บัวหลวง:
TOP – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
What’s new?
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มค่าการกลั่นและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทในระยะยาว
Highlights:
- ตลาดน้ำมันดิบในช่วง 2H22 มีแนวโน้มที่จะมีอุปทานส่วนเกินอยู่บ้าง เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ ในขณะที่การผลิตน้ำมันของรัสเซียไม่ได้ลดลงมากนัก อย่างไรก็ตามการเพิ่มการผลิตอย่างจำกัดของกลุ่ม OPEC+ และการสิ้นสุดของแผนการปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัดอุปทาน และน่าจะหนุนให้ราคาน้ำมันดิบไม่ปรับตัวลงแรง
- สำหรับตลาดน้ำมันสำเร็จรูป ค่าการกลั่นใน 2H22 น่าจะเริ่มปรับตัวกลับสู่ระดับปกติ ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนมีแนวโน้มปรับตัวลดลงใน 2H22 เนื่องจากจบฤดูกาลขับขี่ในสหรัฐและสต็อกที่สูงขึ้น ในขณะที่ส่วนต่างราคาดีเซลและน้ำมันเครื่องบินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นใน 2H22 หนุนโดยอุปสงค์ในฤดูหนาวและสต็อกที่อยู่ในระดับต่ำมาก ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ พายุเฮอริเคน (พีคในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.) ซึ่งอาจส่งผลให้โรงกลั่นต้องหยุดดำเนินงานและเป็นปัจจัยหนุนค่าการกลั่น
- ส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์มีแนวโน้มใน 2H22 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจาก 2Q22 หนุนโดยการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายหลังการคลายล็อกดาวน์ในจีน ในขณะที่การเริ่มดำเนินงานของกำลังการผลิตใหม่บางส่วนล่าช้าออกไป ในขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นคาดว่าจะปรับตัวลดลงในระยะสั้น เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวในช่วงฤดูฝน แต่อุปทานส่วนเพิ่มที่มีไม่มากนัก น่าจะช่วยหนุนให้ส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นทรงตัวอยู่ได้ (หรืออ่อนตัวลงเล็กน้อย)
- สำหรับการลงทุนในโครงการ Clean Fuel Project (CFP) ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 86% (คาดเริ่ม commissioning ในปี 2024) และคาดจะสามารถ FID โครงการ CAP2 (โครงการโอเลฟินส์ในอินโดนีเซีย) ได้ใน 4Q22 ตามแผน นอกจากนั้น TOP จะแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจ โดยมุ่งเน้นที่ 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่ม bio และ กลุ่ม new energy & mobility
- การปรับโครงสร้างทางการเงินมีความคืบหน้าตามแผน ทั้งนี้คาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแล้วเสร็จภายใน 2H22
View From Fundamental:
ภาพแนวโน้มของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นซึ่งจะหนุนผลการดำเนินงานของ TOP ให้เติบโตแข็งแกร่งในปีนี้ น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป มูลค่าหุ้นยังคงถูก โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2022 ที่เพียง 0.7 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1.5SD) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 78 บาท)







