บล.พาย:
VGI บมจ. วีจีไอ “ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่พื้นช้ากว่ารายอื่น”
ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ขณะที่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 4.60 บาท หลังจากทำการปรับลดประมาณการกำไรปี FY2023-24 ลง 57% และ 24% ตามลำดับ รวมถึงการปรับลดมูลค่าพื้นฐาน KEX (ถืออยู่ 17.4%) และ PLANB (ถืออยู่ 18.6%) ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 1QFY23 (เม.ย.-มิ.ย. 2022) อยู่ที่ 25 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษที่มาจากการขายเงินลงทุนเป็นหลัก คาดว่าจะขาดทุนจากธุรกิจปกติที่ 180 ล้านบาท นับเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส เป็นเพราะผลการดำเนินงานของผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนอย่าง KEX ที่ออกมาไม่ดี และรายได้ที่ลดลงในทุกหน่วยธุรกิจ คาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนไปอีกไตรมาส ก่อนที่จะพลิกเป็นกำไรได้ใน 3QFY23 (ต.ค. 2022) ซึ่งจะเป็นช่วง high season สำหรับเม็ดเงินโฆษณา จำนวนผู้โดยสารในระบบ BTS และส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX ที่น้อยลง
ผลประกอบการ 1QFY23 ที่น่าผิดหวัง
- ขาดทุนจากธุรกิจปกติที่แตะจุดต่ำในรอบ 5 ไตรมาสเป็นผลมาจาก 1) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ 101 ล้านบาท จาก 90 ล้านบาทใน 4QFY22 ที่มาจาก KEX และ Rabbit LINE Play เป็นหลัก ซึ่งส่วนแบ่งกำไรของ JMART ไม่สามารถชุดเชยส่วนแบ่งขาดทุนดังกล่าวได้หมด 2) รายได้ที่แตะจุดต่ำรอบ 3 ไตรมาสที่ 1.0 พันล้านบาท (+75%YoY -10%QoQ) การปรับลดลง QoQ เป็นผลจากการปรับตัวลดลง 13% ในธุรกิจสื่อดิจิทัล (38% ของรายได้รวม) ขณะที่รายได้จากธุรกิจบริการระบบดิจิทัลและจัดจำหน่ายสินค้า IT ผ่าน Fanslink ก็ลดลง 13%QoQ และ 22%QoQ ตามลำดับ และ 3) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายที่แตะจุดสูงรอบ 4 ไตรมาสที่ 38.0% สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดก้อนโตสำหรับธุรกิจบริการระบบดิจิทัล และ รายได้ของกลุ่มที่ลดลง
- กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนที่ช่วยหนุนกำไรสุทธิได้แก่ส่วนแบ่ง 113 ล้านบาท จาก JMART และ 59 ล้านบาท จาก KEX
- คาดว่าบริษัทจะขาดทุนไปถึง 2QFY23 (ก.ค.-ก.ย. 2022) เพราะประเมินว่ารายได้สื่อนอกสถานที่ (OOH) จะฟื้นตัวช้าในช่วงฤดูฝน ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการตัดงบอันสืบเนื่องมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงอยู่ ยิ่งกว่านั้นคาดว่าบริษัทจะยังมีส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX เพราะการทำสงครามราคาในหมู่ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 2-3 ไตรมาส
คาดกำไร FY2H23 (ต.ค. 2022 มี.ค. 2023) จะเป็นบวก แต่ต่ำกว่าผู้เล่นรายอื่น
โดยคาดว่ารายได้ธุรกิจ OOH ของบริษัทจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำตามจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในระบบ BTS บวกกับการกลับมาของเม็ดเงินโฆษณาในแพลตฟอร์ม OOH คาดกระแสรายได้จากพื้นที่สื่อและพาณิชย์ (มอบให้ NINE บริหารจัดการ) จะแตะระดับ 70% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ได้ภายในสิ้นปี FY2023 ทั้งนี้ NINE เป็นบริษัทย่อยของ VGI ที่มีแผนเปิดร้านสะดวกซื้อ “Turtle” อีก 12 สาขาภายในสถานี BTS ในปี FY2023 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 สาขา แต่คาดว่า NINE จะสร้างส่วนแบ่งขาดทุนให้กับบริษัทในช่วง 2 ปีแรกของการดำเนินงาน
กำไรยังฟื้นตัวช้ากว่าเพื่อน
ขณะที่มีมูลค่าหุ้นแพง จึงแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 4.60 บาท คำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP)
รีวิวผลประกอบการ
- ขาดทุนจากธุรกิจปกติที่แตะจุดต่ำในรอบ 5 ไตรมาสเป็นผลมาจาก 1) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ 101 ล้านบาท จาก 90 ล้านบาทใน 4QFY22 ที่มาจาก KEX และ Rabbit LINE Play เป็นหลัก ซึ่งส่วนแบ่งกำไรของ JMART ไม่สามารถชดเชยส่วนแบ่งขาดทุนดังกล่าวได้หมด 2) รายได้ที่แตะจุดต่ำรอบ 3 ไตรมาสที่ 1.0 พันล้านบาท (+75%YoY -10%QoQ) การปรับลดลง QoQ เป็นผลจากการปรับตัวลดลง 13% ในธุรกิจสื่อดิจิทัล (38% ของรายได้รวม) ขณะที่รายได้จากธุรกิจบริการระบบดิจิทัลและจัดจำหน่ายสินค้า IT ผ่าน Fanslink ก็ลดลง 13%QoQ และ 22%QoQ ตามลำดับ และ 3) อัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายที่แตะจุดสูงรอบ 4 ไตรมาสที่ 38.0% สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดก้อนโตสำหรับธุรกิจบริการระบบดิจิทัล และรายได้ของกลุ่มที่ลดลง
- กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนที่ช่วยหนุนกำไรสุทธิได้แก่ส่วนแบ่ง 113 ล้านบาทจาก JMART (สัดส่วนการถือครองหุ้นลดลงจาก 14.58% เหลือ 14.46%) และ 59 ล้านบาทจาก KEX (สัดส่วนการถือครองหุ้นลดลงจาก 18.03% เหลือ 17.41%)
- ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY2023 และ FY2024 ลง 57% และ 24% ตามลำดับ หลังจากปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลงเหลือ 27.0% และ 29.9% ตามลำดับ สืบเนื่องจากอัตรากำไรของธุรกิจ สื่อที่ต่ำกว่าคาด ทั้งยังปรับลดส่วนแบ่งกำไรลง 60% และ 20% ตามลำดับ เพราะผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวังของ KEX และ Rabbit Line Play
Revenue breakdown
- รายได้หลักของ VGI สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทดังนี้ ธุรกิจสื่อเคลื่อนที่ 36% ของรายได้รวมในปี FY2022) ซึ่งครอบคลุมสื่อโฆษณา ภาพนิ่ง และดิจิทัลบนระบบรถไฟฟ้า BTS ปัจจุบัน VGI มีสื่อภาพนิ่ง 4,000 จุด และจอฉายสื่อดิจิทัล 2,000 จุด กระจายอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า 30 สถานีและตู้โดยสาร 236 ตู้
- ธุรกิจสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่นๆ ที่คิดเป็น 2% ของรายได้รวมในปี FY2022 ซึ่งประกอบด้วยจอฉายดิจิทัลที่ติดตั้งในอาคารสํานักงาน
- ธุรกิจบริการระบบดิจิทัลที่คิดเป็น 25% ของรายได้รวม โดยจะครอบคลุมบริการชำระเงินแบบออฟไลน์และออนไลน์ บริการทางการเงิน และบริการโฆษณาออนไลน์ทีจัดการโดย VGI Digital Lab
- บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายในปี FY2022 (คิดเป็น 37% ของรายได้รวม) ภายใต้ Fanslink ที่รับหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ IT ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์