บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) -2.9%
Close Nov 9, 2022 Price (THB) 17.00
12M Target (THB) 16.50
Previous Target (THB) 15.00
What’s new?
- TASCO รายงานกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 509 ล้านบาท หากหักรายการพิเศษออก กำไรปกติ 3Q65 อยู่ที่ 380 ล้านบาท ลดลง QoQ และ YoY เพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากราคาขายยางมะตอยที่ปรับตัวลง และการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นในภูมิภาคมาขายต่อเป็นหลัก
- บริษัทฯประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 9M65 จำนวน 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 1.5% ขึ้น XD วันที่ 22 พ.ย. 2565
- ปรับประมาณการปี 2565-2566 ขึ้นเป็น 1,619 ล้านบาท และ 1,704 ล้านบาท ตามลำดับ
Our view
- เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q65 ฟื้นตัว QoQ จากการออกจากช่วง Low Season ของธุรกิจในประเทศ และฟื้นตัว YoY จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นหลัก
- ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 16.50 บาท/หุ้น มี Downside -2.9% คงคำแนะนํา “TRADING”
- TASCO มีประเด็นเก็งกำไรเฉพาะตัว คือการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลา ซึ่งในกรณีที่มีการยกเลิกมาตรการดังกล่าวจริง จะส่งผลให้ปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ฟื้นตัวได้ และทำให้ราคาเหมาะสมของเราขึ้นไปอยู่ในระดับ 24.00 บาท +/-
TIPCO ASPHALT กำไรปกติ 3Q65 ลดลง QoQ และ YoY
กำไรปกติ 3Q65 ลดลง QoQ และ YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็นหลัก
TASCO รายงานกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 509 ล้านบาท (-13% QoQ, +35% YoY) แต่หากหักรายการพิเศษออก กำไรปกติ 3Q65 อยู่ที่ 380 ล้านบาท ลดลง -39% QoQ และ -5% YoY โดยการลดลง QoQ มีสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q65 ที่ลดลงมาอยู่ในระดับ 9.7% (-360bps QoQ, -260bps YoY) หลังราคาขายยางมะตอยปรับตัวลง QoQ ตามราคาน้ำมัน และ 2) การเข้าสู่ช่วง Low Season ของอุตสาหกรรมยางมะตอยในประเทศ (ช่วงใกล้หมดปีงบประมาณของหน่วยงานรัฐ) ขณะที่การลดลง YoY เป็นเพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง YoY จากการที่บริษัทฯ มีสัดส่วนการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นในภูมิภาคมาขายต่อมากขึ้น (ได้อัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำลง) เป็นหลัก โดยกำไรปกติ 9M65 คิดเป็นสัดส่วน 75% ของประมาณการทั้งปี นอกจากนี้บริษัทฯประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 9M65 จำนวน 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 1.5% ขึ้น XD วันที่ 22 พ.ย. 2565 และจ่ายเงินวันที่ 8 ธ.ค. 2565
ปรับประมาณการปี 2565-2566 ขึ้น
เราปรับประมาณการปี 2565 ขึ้นราว 26% เป็น 1,619 ล้านบาท (-15% YoY) จากอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 9M65 ที่ดีกว่าคาดการณ์เดิมของเรา เพราะ 1) บริษัทฯ บันทึกรายการขาดทุนจากสัญญาซื้อขายโภคภัณฑ์ล่วงหน้าน้อยกว่าคาด (เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการขายยางมะตอย) และ 2) กลยุทธ์การขายยางมะตอยแบบ Selective Market ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้เราปรับประมาณการปี 2566 ขึ้นราว 2% เป็น 1,704 ล้านบาท (+5% YoY) เนื่องจากเรามองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงมาอยู่ในระดับ US$90/bbl +/- จะทำให้บริษัทฯ เริ่มพิจาณาซื้อน้ำมันดิบเข้ามาอีกครั้ง และจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตและขายน้ำมันดิบเองได้มากขึ้น (หนุนปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้น)
กำไร 4Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ และ YoY
เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q65 ฟื้นตัว QoQ และ YoY มาอยู่ในระดับ 400-450 ล้านบาท โดยการฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากปริมาณขายยางมะตอยที่มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ จากการออกจากช่วง Low Season ของธุรกิจยางมะตอยในประเทศไทย ขณะที่การฟื้นตัว YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ได้แรงหนุนจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีแนวโน้มลดลง YoY หลังบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 16.50 บาท/หุ้น
เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 16.50 บาท/หุ้น (รวมพรีเมียม 2% จาก Yuanta ESG Rating ระดับ AA แล้ว) มี Downside -2.9% คงคำแนะนำ “TRADING” อย่างไรก็ตามหุ้น TASCO มีประเด็นเก็งกำไรเฉพาะตัว คือ ประเด็นการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลา ซึ่งในกรณีที่มีการยกเลิกมาตรการดังกล่าวจริง บริษัทฯ จะสามารถกลับไปใช้น้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้อีกครั้ง และจะทำให้ปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ มีโอกาสฟื้นตัวกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับปี 2559-2563 และจะส่งผลให้ราคาเหมาะสมของเราเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับ 24.00 บาท +/-








