บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +12.4%
Close Nov 21, 2022 Price (THB) 74.75
12M Target (THB) 84.00
Previous Target (THB) 75.00
What’s new?
- AOT รายงานขาดทุนปกติใน 4Q64/65 ที่ 1 พันล้านบาท ดีกว่าที่ตลาดคาดจะขาดทุน 1.5 พันล้านบาทอย่างมีนัยยะ
- AOT กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การให้มาตรการเยียวยากับร้านค้าและสายการบิน จะสิ้นสุดลงหลังมี.ค.66 หนุนให้ AOT จะกลับไปได้ราคาต่อหัวอิงกับการประมูล
Our view
- เราปรับเพิ่มประมาณการตั้งแต่ปี 2566/67 เราคาดกำไรปี 2556-67 สูงกว่าปี 255162 หรือช่วงก่อนเกิด COVID-19 หนุนจากสัญญา King Power ที่ทำให้อัตรารายได้ต่อหัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- ผลการปรับเพิ่มประมาณการทำให้ราคาเหมาะสมปรับเพิ่มขึ้นเป็น 84.00 บาทต่อหุ้น (DCF) เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และเลือกให้เป็นหุ้นเด่นของ Theme การท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัว
AIRPORT OF THAILAND ใกล้ถึงเวลาปลดล็อกสัญญา King Power
ผลประกอบการ 4Q64/65 ดีกว่าตลาดคาด …EBITDA กลับมาเป็นบวก
AOT รายงานขาดทุนสุทธิ 4Q64/65 ที่ 1.33 พันล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษหลักๆ ได้แก่ ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ขาดทุนจากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ กำไรจากตราสารอนุพันธ์ และขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ ผลดำเนินงานปกติ 4Q64/65 ขาดทุนที่ 1.06 พันล้านบาท ดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เทียบกับขาดทุน 2.4 พันล้านบาทใน 3Q64/65 และขาดทุน 4.2 พันล้านบาทใน 4Q63/64
ผลประกอบการดีกว่าที่ตลาดคาดจะขาดทุน 1.5 พันล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้ 1) รายได้ Aeronautical อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (+51% QoQ, +756% YoY) 2) รายได้ Non-aeronautical อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท (+32% QoQ, +212% YoY) หนุนจากรายได้ธุรกิจร้านค้าปลอดอากรและธุรกิจการบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์ฟื้นตัวเด่นมีรายได้ 1.7 พันล้านบาท (+45% QoQ) เทียบกับช่วงก่อนเกิด COVID-19 ราว 4 พันล้านบาทต่อไตรมาส ถือว่าฟื้นตัวมาเกือบครึ่งทางแล้วทั้งๆ ที่ยังอยู่ใต้มาตรการเยียวยา
กำไรขั้นต้นขาดทุน 168 ล้านบาท ขณะที่ SG&A อยู่ที่ 660 ล้านบาท (+6% QoQ, +99% YoY) EBITDA กลับมาเป็นบวกแล้วที่ 1.4 พันล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส
เตรียมรับแรงส่งนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการหมดมาตรการเยียวยาตั้งแต่มี.ค.66
เราคาดกำไรปกติปี 2565/66 ของ AOT จะฟื้นตัวเด่นต่อเนื่อง แม้เราคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยว ต่างชาติปี 2566 ที่ 20-25 ล้านราย หรือคิดเป็น 50%-60% ของปี 2562 หรือฐานก่อนเกิด COVID-19 แต่ประมาณการจํานวนนักท่องเที่ยวของเรามี Upside Risk หากสุดท้ายจีนเปิดประเทศได้ในช่วง 1H66 ขณะที่มาตรการเยียวยาที่ AOT ให้กับผู้ประกอบการรวมถึง King Power จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.66 ซึ่งหมายความว่า AOT จะได้รับรายได้ Concession ตั้งแต่เดือนเม.ย.66 ที่อัตรา Revenue per head ที่มาจากสัญญาการประมูล X จำนวนนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจริง การปรับมาใช้อัตราราคาที่เกิดจากการประมูล ย่อมหมายถึงรายได้ต่อนักท่องเที่ยว 1 ราย ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญราว 3 เท่า เทียบกับช่วงที่ให้มาตรการเยียวยา ดังนั้นนอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว AOT จะได้การปรับเพิ่มราคาใน 2H65/65 ขณะที่ปี 2566/67 AOT จะได้ฐานนักท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มปี พร้อมกับการรับรู้อัตราราคาจากสัญญา King Power ทำให้มีโอกาสสูงที่กำไรจะทำระดับเกินกว่าปี 2562 หรือปีก่อนเกิด COVID-19 ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยประมาณการทั้งหมดของเรายังไม่รวม Upside ส่วนเพิ่มจากการทำธุรกิจเมืองการบินที่อยู่ระหว่างรอให้เอกชนประมูลพื้นที่ และธุรกิจการขนส่งอาหารเน่าเสียง่ายที่เซ็นสัญญากับกระทรวงเกษตรฯ ไปแล้ว คาดจะเห็นความคืบหน้าเพิ่มเติมในปี 2566
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 84.00 บาทต่อหุ้น
เราปรับเพิ่มประมาณการตั้งแต่ปี 2566/67 เป็นต้นไปราว 5%-10% ในแต่ละช่วงปี ส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ของเราปรับเพิ่มขึ้นเป็น 84.00 บาทต่อหุ้น ซึ่ง DCF WACC 7.1% Terminal Growth 3% เราคาดกำไรปี 2566/67 สูงกว่าปี 2561/62 หรือก่อนเกิด COVID19 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และมอง AOT เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังมี Upside เปิดกว้างและฟื้นตัวชัดเจนในระยะถัดไป
ความเสี่ยงสำคัญ คือ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าคาด การระบาดเพิ่มเติมของสายพันธุ์ใหม่ และการออกมาตรการช่วยเหลือสายการบินและร้านค้าเพิ่มเติม







