FED Minute ส่งสัญญาณถึงความกังวลเศรษฐกิจ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดบวก 0.28% หลังจากรายงานผลประชุมเดือน พ.ย. ระบุถึง FED มีแนวโน้มจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับลง 3.3% หลังจากมีรายงานว่ากลุ่ม G7 เตรียมกำหนดราคาน้ำมันรัสเซียไม่ให้เกิน 70 ดอลลาร์ / บาร์เรล และการระบาด COVID-19 ในจีนเป็นอีกตัวกด
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา FED เปิดเผยรายงานผลประชุมประจำเดือน พ.ย. ได้ใจความว่าเป็นไปได้ที่หลังจากนี้การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นลักษณะขึ้นในอัตราที่น้อยลงจากครั้งก่อนๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ FED บางท่านแสดงถึงความกังวลต่อดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงจะกดดันภาวะเศรษฐกิจ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนมีทั้งแย่และดีผสมผสานกัน แต่คล้ายกับว่าตลาดจะเลือกให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มากกว่าสะท้อนผ่านการปรับลงของ US Bond Yield 10 ปี โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ได้แก่ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่อยู่ที่ 2.4 แสนราย (ตลาดคาดที่ 2.25 แสนราย) รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการออกมาที่ 46.1 (ตลาดคาด 48) และภาคผลิตอยู่ที่ 47.6 (ตลาดคาด 50) ซึ่งความเห็นล่าสุดของ CME FED WATCH ระบุว่าในการประชุม เดือน ธ.ค. ให้น้ำหนักส่วนมากราว 75.8% ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ทั้งนี้ประเด็นการเปิดเผยรายงานผลประชุม FED ถือว่าไม่ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดเท่าใด โดยแนะติดตามผลประชุม FED กลางเดือน ธ.ค. โดยเฉพาะ Terminal Rate ซึ่งปัจจุบันตลาดคาดที่ 5.25% หาก Terminal Rate ต่ำกว่าตลาดคาดหมายไว้จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นปัจจัยการผ่อนคลายดอกเบี้ยจะเป็นตัวหนุนตลาดหุ้น ผลกระทบต่อ SET INDEX อาจมีความเป็นไปได้ที่ Fund Flow จะกลับเข้ามาอีกครั้ง สะท้อนผ่านค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่า
โดยประเมิน SET INDEX วันนี้มีโอกาสปรับขึ้นกรอบ 1625 – 1634 ปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายดอกเบี้ย รวมถึงบรรยากาศที่เป็นบวกจากตลาดหุ้นเอเชีย (Nikkei +1.3%) ส่วนคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะปรับขึ้นยังเป็นโอกาสทยอยลดพอร์ต เนื่องจากระยะถัดไปยังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และในอดีตที่ผ่านมาช่วงดอกเบี้ยปรับลง มักทำให้ตลาดหุ้นปรับลง ส่วนหุ้นแนะนำยังเน้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยใกล้จุดสูงสุด อาทิ โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) อื่นๆ ยังเน้น Domestic อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TISCO) และได้ประโยชน์น้ำมันลง (SCC SCGP)
Pi Stock Picks
BGRIM (ถือ / ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท)
คาดไตรมาส 3/22 เป็นจุดต่ำสุดของปี และประเมินว่ากำไรจะค่อยๆ ปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/22 เป็นต้นไป โดยผลงานในไตรมาส 4/22 จะได้แรงหนุนจากการปรับเพิ่มค่า Ft เป็น 0.93 บาท/kWh สำหรับช่วง เดือน ก.ย.-ธ.ค. 2022
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท)
ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของ CPALL ในไตรมาส 4/22 และปี 2023 คือ 1) จำนวนลูกค้าในร้านที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง 2) การใช้จ่ายที่สูงขึ้นช่วงการแข่งขันบอลโลก








