ตลาดหุ้นสหรัฐและสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการ ส่งผลให้ภาพรวมทรงตัว

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยราว 21.30 น. ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

Market Outlook

ภาพรวมวันนี้ค่อนข้างทรงตัวจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการ ขณะที่ประเทศไทยก็ยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เช่นกัน สะท้อนผ่านการซื้อขายวานนี้ที่ SET INDEX ปิดแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงที่ +0.03% พร้อมกับมูลค่าซื้อขายที่เพียง 4.59 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทั้งนี้มองว่าปัจจัยใหญ่ๆ ที่จะมีผลต่อการลงทุน ได้แก่ (1) ประชุม กนง. ในวันที่ 30 พ.ย. (2) เงินเฟ้อสหรัฐฯในช่วงวันที่ 13 ธ.ค. (3) ประชุม FED ช่วงวันที่ 15 ธ.ค. ทั้งนี้เรื่องของดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค. เชื่อว่าไม่ได้มีผลอะไรมากกับตลาด เพราะน่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.50% แต่มองว่า Terminal Rate มีผลมากกว่าในการประชุม เดือน ก.ย. FED ประเมิน Terminal Rate ไว้ที่ 4.6% อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดประเมินไว้ที่ 5.1% ดังนั้น หากผลประชุม FED มีการปรับ Terminal Rate ต่ำกว่า 5.1% ก็มีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะปรับขึ้นช่วงประชุม FED แต่หาก Terminal Rate สูงกว่า 5.1% ก็เสี่ยงจะปรับฐานลง ส่วนวานนี้ สภาอุตสาหกรรมได้รายงานอุตสาหกรรมยานยนต์พบว่าจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมดอยู่ที่ 1.7 แสนคัน (+10.8%YoY) ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 6.46 หมื่นคัน (+0.24%) แต่ลดลง 12.9%MoM สาเหตุจากภาวะน้ำท่วม ส่วนยอดส่งออกอยู่ที่ 9.42 หมื่นคัน (+15.5%YoY) โดยรวมมองหุ้นได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ (AH SAT STANLY) และสินเชื่อเช่าซื้อ (KKP TISCO) ส่วนการขยายตัวทั้งยอดส่งออก และยอดขายในประเทศยังสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อในประเทศ โดยประเมิน SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1620 – 1630

เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเพิ่มการถือครองเงินสดบ้าง หลังตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปเยอะ ส่วนชุดหุ้นแนะนำเน้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TISCO TTB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ชิ้นส่วนยานยนต์ (AH SAT STANLY) และยังแนะทยอยสะสมโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)

Pi Stock Picks

TISCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 108.00 บาท)

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/22 โต 7% YoY (+8% QoQ) เป็น 1.9 พันล้านบาท หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง

SAT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)

แนวโน้ม 4Q22 คาดว่าจะยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังดีอย่างต่อเนื่อง แต่ในแง่ความสามารถในการทำกำไรอาจจะแค่ทรงตัวจากปีก่อนที่ระดับ 18% เนื่องจากราคาเหล็กที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น

- Advertisement -