KS Daily View 25.11.2022 > ดอลลาร์อ่อนค่าหนุนเงินบาทกลับมาแข็งค่าแรงใกล้ 35.7 อีกครั้ง สัปดาห์หน้าตลาดรอวันที่ 30 พ.ย. การประชุม กนง. ประเมินกรอบ SET Index วันนี้ 1615-1630 จุด/กลยุทธ์เน้นหุ้น Defensive ,กลุ่มDomestic ,กลุ่มที่โมเมนตัมกำไรดีต่อ หุ้นแนะนำ PYLON

ประเด็นที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นเมื่อวาน : ตลาดหุ้นโลกแกว่งตัวเห็นได้จากตลาดหุ้นฝั่งยุโรป ทั้งดัชนี CAC40 +0.4% ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า สอดคล้องกับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานแกว่งตัว โดย SET Index เมื่อวานปิดที่ 1624.96 จุด(+0.03%DoD) หุ้นที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆ คือ MAKRO -2.55% ถูก Take Profit จากก่อนหน้าที่ปรับขึ้นแรงจากการเก็งจะเข้า SET 50, PTTEP -1.8% ลงตามราคาน้ำมันดิบโลก ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นและหนุนดัชนี นำโดยกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ ANAN +10.5% ขึ้นแรงขากข่าวศาลปกครองกลางสั่งไม่ต้องรื้อถอน แอชตัน อโศก, GULF+1.94%, DELTA+1.52%, HANA+1.5%

ประเด็นในประเทศหลักๆ คือ

1.) รายงานตัวเลขฝั่งยานยนต์ เดือนต.ค. ออกมาแข็งแกร่งแต่ลดลงจากเดือนก.ย. จากยอดขายในประเทศ (ทรงตัว YoY) การส่งออก (+16%) การผลิต (+11% และ U-rate ที่ 68%) มองไปตลอดงวด 4Q22 เรายังมองสดใสจากงาน Motor Expo และคาดโมเมนตัมรถยนต์ไทยจะดีต่อเนื่องในปี 2566 จาก อุปสงค์ EV (1.0 หมื่นคัน ในปี 65) และโอกาส FTA หุ้นที่ได้ผลบวกจากตัวเลขยานยนต์ดี คือ SAT AMATA TISCO KKP และ TTB 2

2.) รายงานตัวเลขรายได้เกษตรเดือน ต.ค.2565 (+25.5% YoY และ +10.4% MoM) ราคา (+1%) ผลผลิต (+10%) หนุนจากข้าว (+19%) และปศุสัตว์ (+5%) มองไปตลอดงวด 4Q22 ยังมองดีจาก ราคาปศุสัตว์ทรงตัวสูง โดยรายได้เกษตรที่ดีบวกต่อ GLOBAL DOHOME MTC SAWAD SAK DCC และ TOA

ประเด็นที่มีผลต่อการลงทุนและ Sector ที่น่าสนใจในช่วงนี้

1.) Dollar Index แกว่งตัวใกล้หลุดเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน ล่าสุดอยู่ที่ 105.7 จุดกดดันเงินบาท/ดอลลาร์แข็งค่าเช้านี้ใกล้แตะ 35.5 บาทอีกครั้ง เราประเมินแนวโน้ม Dollar จะอ่อนค่าต่อทั้งจากเงินเฟ้อสหรัฐผ่าน Peak และ Fed Minutes ล่าสุดโทนออกมาในทางผ่อนคลาย เรามองบวกต่อสินทรัพย์ที่มี Correlation สวนทางกับ Dollar อาทิ ทองคำ เช่นเดียวกับค่าเงินบาท Trend แข็งค่าๆตาม Dollar ,เศรษฐกิจไทยที่เห็นสัญญาณฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว ฯลฯ ยังมองบวกต่อทิศทาง Fund Flow และหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ ห้องค้ากสิกรไทย ล่าสุด คาดการณ์ค่าเงินบาทสิ้นปี 2022-2023 ลงมาอยู่ที่ 35.25 บาทและ 33.5 -34.0 บาท/เหรียญฯ ตามลำดับ เงินบาทที่แนวโน้มแข็งค่า บวกกับกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีหนี้ USD เยอะ ได้แก่ EGCO, BGRIM เป็นต้น แต่จะลบกับกลุ่มส่งออก

2.) สัปดาห์หน้า Key สำคัญที่ตลาดให้น้ำหนักคือ 30 พ.ย. การประชุม กนง. ติดตามจะเห็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย? โดย KBANK คาดดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปี 22 อยู่ที่ 1.25%และสิ้นปี 2023 คาดดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.75-2% โดยอาจจะเห็น Sentiment บวกจากหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ BBL, SCB ฯลฯ ที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขึ้น ส่วนหุ้น Toppick กลุ่มธนาคารเราแนะนำ KTB และ TTB

3.) หุ้นที่ถูกประกาศรายชื่อถูกคัดเข้า/ ออก เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ในการคำนวณดัชนีจะมีการปรับน้ำหนักวันที่ 30 พ.ย.65 MSCI Global Standard Index หุ้นที่ถูกคัดเข้า : ไม่มี ส่วนหุ้นที่ถูกคัดออก : BAM โดยเราให้น้ำหนัก BAM (ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 21.0 บาท) ราคาหุ้นปรับลงจากจุดสูงสุดของปีนี้ราว 30% ในเชิงกลยุทธ์คือ เราแนะนำ ให้รอซื้อในวันที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักวันที่ 30 พ.ย.65 เนื่องจากสถิติในอดีตผลตอบแทน 1 สัปดาห์หลังหุ้นถูกคัดออกจาก MSCI มักจะเป็นบวก และจากแนวโน้มผลประกอบการที่เห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง สินทรัพย์ในมือค่อนข้างสูง และ Valuation ที่ถูกสุดในกลุ่มโดย PBV อยู่ที่ 1.2 เท่า

กลยุทธ์การลงทุน

เรายังคงมุมมองบวกต่อ SET Index ต่อเนื่องไปจนถึงในช่วง 1H23 ตามเดิม ประเมินดัชนีคาดจะแกว่งตัวขึ้นไปจนถึงก่อนการประชุม Fed ช่วงกลางเดือน ธ.ค. ประเมินแนวต้าน 1666 จุด และ 1700 จุดในช่วงที่เหลือของปี และหากดัชนีย่อลงมาเรามองเหมือนเดิมคือ คาดไม่ทำ New low หรือคาดไม่หลุด 1550 จุด ประเมินแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1605 จุดเป็นแนวรับแรก โดยเหตุผลทั้งทางปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังเห็นการเติบโต

หุ้นกลุ่มที่แนะนำลงทุน : เน้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อาทิ CK กลุ่มสื่อ อาทิ PLANB กลุ่มที่ Outlook กำไรงวด 4Q22 โต YoY และ QoQ และปีหน้าโตเกิน 15% อาทิ SNNP, PTG, CRC, PLANB, EGCO, GPSC, HENG และ BE8 และชะลอลงทุน อาทิ กลุ่มส่งออกอาหาร ยกเว้นส่งออกอาหารสัตว์ กล่มปิโตรเคมี

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1615-1630 จุด หุ้นแนะนำ PYLON

Top pick : PYLON (ราคาพื้นฐาน 5.52 บาท) หลังการประชุม PYLON เมื่อวานผู้บริหารเปิดเผยงานในมือสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.59 พันล้านบาทในงวด 4Q22 สูงกว่าประมาณการของเรา 50% ให้เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 2022-2024 ขึ้น +12%/+30%/-7% และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ขึ้น 21.05% เป็น 5.52 บาท โดยปรับเพิ่มคำแนะนำ Outperform โดยราคาหุ้นที่ฟื้นตัวช้ากว่าโมเมนตัมการฟื้นตัวของกำไร

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Manufacturing Production เดือน ต.ค. คาด +2.8% YoY และตัวเลข GfK Consumer Confidence เดือน ธ.ค. คาด -39.6 จด (ดีขึ้นจาก -41.9 จุดในเดือนก่อน)
- Advertisement -