บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Kiatnakin Phatra Bank (KKP TB) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง
คาดต้นทุนสินเชื่อเพิ่มขึ้น “ซื้อ” ลด TP เหลือ 90 บาท
เรายังคงชอบ KKP ที่มีสินเชื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ และราคาหุ้นน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม หุ้นอาจขาดปัจจัยหนุนในระยะสั้น เนื่องจากธนาคารมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยลงบางส่วน พร้อมกับต้นทุนสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะกดดันกำไรในครึ่งแรกของปี 66 คงแนะนำ “ซื้อ” และลดราคาเป้าหมายเป็น 90 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 1.2 เท่า, ROE 12.9%) จาก 95 บาท หลังปรับลดคาดการณ์กำไรเพื่อสะท้อนเป้าหมายทางการเงินปี 66 ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ และผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมามากกว่าที่คาดไว้
ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น
เรามีมุมมองเชิงลบเล็กน้อยจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ โดย KKP ตั้งเป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 2566 ที่สินเชื่อเติบโต 13% (เน้นสินเชื่อ HP และสินเชื่อที่อยู่อาศัย) และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อที่ต่ำกว่า 5.0% (เทียบกับ 5.4% ในปี 65) เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ทั้งนี้ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพคาดว่าจะลดลง 20bps YoY เป็น 3.1% แต่ต้นทุนสินเชื่อน่าจะเพิ่มขึ้น 10bps YoY เป็น 2.2% ในปี 66 เนื่องจากผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ที่ยึดมาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ค่าธรรมเนียม แต่คาดว่าค่าธรรมเนียมแบงก์แอสชัวรันส์จะเติบโตตามปริมาณสินเชื่อใหม่ ส่วนค่าธรรมเนียมจากการบริหารความมั่งคั่งคาดปรับตัวดีขึ้น YoY จากผลกระทบของฐานที่ต่ำของตลาดทุนโลกที่อ่อนแอในปี 65 ในขณะที่ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อาจลดลง YoY จากอัตราภาษีธุรกรรมใหม่
คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงในระยะสั้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเผยว่าต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้นในไตรมาส 4/65 มีสาเหตุหลักมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลงในพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ตามภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น น้ำท่วม และโครงการบรรเทาหนี้สิ้นสุดลง ยอดขาดทุนจากการขายรถยึดมาเพิ่มขึ้นเป็น 36% ในไตรมาส 4/65 จาก 32% ในไตรมาส 3/65 และคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงในไตรมาส 1/66 อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์ในเดือน ม.ค.66 ดูทรงตัว MoM หลังจากที่ธนาคารได้เข้มงวดเกณฑ์ การอนุมัติสินเชื่อตั้งแต่ไตรมาส 4/65 โดยรวมเราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นใน 2H66
ปรับลดกำไรปี 66-67 ลง 6% จากต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 66-67 ลง 6% หลังจากเพิ่มสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อ และต้นทุนสินเชื่อ เราเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อเป็น 10-12% (จากเดิม 8%) และต้นทุนสินเชื่อเป็น 1.7-2.0% (จาก 1.5-1.7%) เพื่อสะท้อนเป้าหมายทางการเงินใหม่ อัพไซด์ต่อประมาณการกำไรของเรา คือ การกลับรายการสำรองสำหรับธุรกรรมการซื้อขายตราสารทุนที่ KKP ได้บันทึกเต็มจำนวนแล้วในไตรมาส 4/65 ตอนนี้เราประเมินกำไรจะเติบโต 9-10% YOY ในปี 66-67