บล.ฟิลลิป:
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป – TU ปรับโครงสร้างภายในเพื่อเตรียมเข้าตลาดฯ
ปรับโครงสร้างภายในเพื่อเตรียมเข้าตลาดฯในปี 2565
ผู้บริหารได้แนะนำบ. ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ITC) ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างภายในจาก บ.เดิมคือบมจ.สงขลาแคนนิ่งโดยจะใช้ ITC เป็นฐานการผลิตสินค้ากลุ่ม Pet Care ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานผลิต 2 แห่งคือ 1) สมุทรสาคร และ 2) สงขลา ด้วยกำลังการผลิต 85,000 ตัน/ปี และเน้นการผลิตอาหารสัตว์แบบเปียก และจะออกสินค้าใหม่แบบแห้งใน 3Q64 สำหรับธุรกิจดังกล่าว ยอดขายมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปี 2560-2563 ท่ี 9% ต่อปี และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20-26% ใน 5 ปีที่ผ่านมา โดยรายได้ส่วนใหญ่จะเป็นการรับจ้างให้ผู้ผลิตรายใหญ่เป็นการขายอาหารแมว 85% อาหารสุขัข 15% ส่วนตลาดส่งออกหลัก คือ อเมริกาเหนือ 45%, ยุโรป 20%, เอเชีย 32% และออสเตรเลีย 3% หลังการปรับโครงสร้างภายใน และแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 30-40% ตั้งแต่ปี 2564-2566 ด้วยเงินลงทุน 2.8 พันล้านบาท คาดแล้วเสร็จใน 1H2566 และพร้อมนำบ.ดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ 3Q65
ทำไมต้อง Pet Care?
มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในตลาดโลกปี 2564 คาดสูงถึง 154 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าตลาดในส่วนอาหารแมวและสุนัขคิดเป็น 69% ของมูลค่าตลาดรวม และจากการสำรวจปริมาณการเลี้ยงในปี 2563 พบว่ามีจำานวนแมวที่เลี้ยงในตลาดโลกอยู่ 374 ล้านตัว ขณะที่สุนัข 488 ล้านตัว แต่หากพิจารณาอัตราเติบโตเฉลี่ยถึงปี 2568 พบว่าจำนวนประชากรแมวจะเพิ่มขึ้น 4.4% ต่อปี ขณะท่ีสุนัขเพิ่ม 3.2% ต่อปี โดยจีนและสหรัฐเป็น 2 ประเทศที่มีสัดส่วนการเลี้ยงแมวที่ 45% และสุนัขที่ 37% ของโลก และคาดมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงปี 2569 เพิ่มเป็น 190 พันล้านเหรียญ อัตราเติบโตเฉลี่ย (2559-2569) ราว 4-5% อีกทั้ง COVID-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้คนหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น และยังให้ความใส่ใจถึงอาหารของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ผู้บริหารแจ้งว่าบริษัทมีความพร้อมจากการมีฝ่ายวิจัยและพัฒนา รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับรูปแบบการเลี้ยงท่ีเปลี่ยนไป
คาดการดำเนินงานของ TU ยังดี แม้ไม่ได้ผลบวกจาก COVID-19 อย่างปีที่ผ่านมา
สำหรับการดำเนินงานของ TU ในปี 2564 แม้ว่ากลุ่ม Ambient จะไม่ได้ผลบวกจาก COVID-19 อย่าง
ปีท่ีผ่านมา แต่การดำเนินงานของกลุ่มอื่นๆ ทั้งอาหารแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยงยอดขาย 6 เดือน
แรกเพิ่มขึ้น 20% และ 16% หลังการคลายล็อกดาวน์ในประเทศต่างๆ ส่งผลให้ร้านอาหารต่างๆกลับมาเปิดให้บริการปกติอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าการดำเนินงานในครึ่งปีหลังอาจอ่อนกว่าในครึ่งปีแรกจากปัญหา COVID-19 ในไทย ที่ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงไป และการดำเนินงานของ RL ในครึ่งปีหลังจะอ่อนลงกว่าในครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นอีกปัจจัยท่ีฉุดให้การดำเนินงานอ่อนลงกว่าในครึ่งปีแรก แต่คาดว่าทั้งปีการดำเนินงานยังเติบโตได้ 21%y-y ที่ 7,539 ล้านบาท
คงแนะนำ “ซื้อ” คงราคาพื้นฐาน 27 บาท
ทางฝ่ายมองว่าการปรับโครงสร้างภายใน รวมถึงการทยอยนำบ. ลูกที่ถืออยู่ทั้ง TFM และ ITC เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ รวมถึงแผนระยะยาวที่จะนำ RL เข้าไปจดทะเบียนเช่นกัน เป็นการปลดล็อกสินทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในบริษัท นอกจากธุรกิจหลักที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง รวมถึงการขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆที่จะทยอยเก็บดอกผลในช่วงถัดไป อีกทั้งหากพิจารณาราคาปัจจุบัน ซื้อขายบน P/E ไม่ถึง 14 เท่า มีส่วนลดมากเกินไป และไม่สะท้อนปัจจัยบวกต่างๆ ที่มีในตัว ทางฝ่ายคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 27 บาท