วันนี้คาดตลาด “Rebound”

แนวรับ 1,430 / 1,423 แนวต้าน 1,442 / 1,456

US-Bond Yield เริ่มวกตัวลงแรง กดดันส่วนต่างอัตราผลตอบแทบสินทรัพย์เสี่ยง-สินทรัพย์ปลอดภัยลดลง เจ้าหน้าที่ FED หลายเสียงออกมาแสดงความคิดเห็นให้ FED หยุดขึ้นดอกเบี้ย / ค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาแข็งค่า อาจเห็นแรงซื้อกลับตลาดหุ้นไทย

Our View? “Baht is Back”

คาดตลาดวันนี้ “Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,430 / 1,423 และแนวต้านที่บริเวณ 1,442 / 1,456 เราคาดตลาดจะได้รับปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) เริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.64%+/- ปรับตัวลงจากการทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับราว 4.90% จากแรงกลับเข้าซื้อ สินทรัพย์ปลอดภัยอาทิทองคำและพันธบัตรรัฐบาลตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า รวมทั้งการที่คุณราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตากล่าวแสดงความคิดเห็นว่า FED ไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อกดอัตราเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2%จากการที่ FED ได้ใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดเพียงพอแล้ว สอดคล้องกับคุณลอรี โลแกนประธาน FED สาขาดัลลัส ออกมาแสดงความคิดเห็นในมุมมองเดียวกัน ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง พ.ย. – ธ.ค. กดดัน US-Bond Yield อ่อนตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยลดแรงกดดันจากส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง-สินทรัพย์ปลอดภัย หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้ ในส่วนของสัปดาห์นี้เรายังแนะนำติดตามรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดมีโอกาสออกมาชะลอตัวลงเล็กน้อย เพื่อประเมินแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ช่วงเดือน พ.ย. ต่อโดยตัวเลขที่ออกมาล่าสุดสะท้อนถึงตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง แต่อัตราการว่างงานเริ่มชะลอตัวลงพร้อมตัวเลขค่าเฉลี่ยค่าจ้างแรงงานสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐอาจชะลอตัวลงได้กระตุ้นความหวัง FED หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ย. เริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว ปิดที่ระดับ 85.97 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.41 ดอลลาร์ (-0.47%) เผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นได้ดีก่อนหน้าจากความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวจากความไม่สงบใน อิสราเอลอาจส่งผลกระทบถึงการขนส่งน้ำมันในบริเวณคลองสุเอชได้ ขณะที่วันนี้คาดตลาดจะรอ ติดตามการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของ รัฐบาลสหรัฐ (EIA) รวมทั้งรายงานแนวโน้มตลาดน้ำมันของกลุ่ม OPEC และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ในวันพรุ่งนี้ คาดอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันกลับมาผันผวนได้อีกครั้ง

สำหรับปัจจัยในประเทศเราคาดว่าตลาดจะติดตามการประชุม ครม. โดยเฉพาะในประเด็นการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยโดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท คาดยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง มองยังเป็นปัจจัย Overhang ตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

อย่างไรก็ดีเราคาดว่า Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมีความจำกัด จากระดับการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยล่าสุดอยู่ที่ Forward PE 16.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.5 S.D. ที่ 16.7 เท่า ซึ่งเป็นจุดที่เราคาดว่าความน่าสนใจในเชิง Valuation มีมากขึ้น อย่างไรก็ตามต้องติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยล่าสุดเริ่มชะลอการอ่อนค่าล่าสุดอยู่ที่ระดับ 36.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ คาดจะส่งผลให้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติลดลง และอาจเห็นแรงซื้อกลับหุ้นไทยได้บ้าง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “AH”

  • เราคาด AH เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัวขึ้น จากการย้ายฐานการผลิตของบริษัทยานยนต์มาไทย ทั้งรถสันดาปและ EV คาดจะหนุนทิศทางกำไรฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง
  • ทางเทคนิค ราคา Breakout แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงระสั้น ยืนเหนือ EMA10 วัน ขณะที่ MACD วกตัวขึ้น พร้อม SSTO ให้สัญญาณซื้อแนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
  • กลยุทธ์ ซื้อเล่นรอบ แนวรับ 34.00 / 33.00 Target 37.50 / 39.00 Stop <32.00

- Advertisement -