บล.บัวหลวง:
Bangkok Dusit Medical Services (BDMS TB / BDMS.BK)
BDMS – ทำสถิติสูงสุด! เป็นไปตามที่เราคาด แต่มากกว่าตลาดคาด 9%!
กำไรมากกว่าที่ตลาดคาด แต่เป็นไปตามที่เราคาด
BDMS รายงานกำไรหลักไตรมาส 3/66 ที่ 3.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 29% QoQ ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาด 9% (เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น ธุรกิจการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น) แต่เป็นไปตามที่เราคาด
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
กำไรหลักเติบโต YoY และ QoQ เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานของโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น 12% YoY ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น 19% YoY และรายได้ผู้ป่วยไทยที่เพิ่มขึ้น 9% YoY รายได้ธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท (เป็นผู้ป่วยชาวไทย 74% ผู้ป่วยต่างชาติ 26%) เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 10% QoQ รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 12% QoQ โดยหลักมาจากการกลับมาของผู้ป่วยไทยร่วมกับการแพร่ระบาดตามฤดูกาล ได้แก่ ไวรัสระบบทางเดินหายใจ (RSV) ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 6% QoQ ปริมาณ ผู้ป่วยต่างชาติ โดยหลักมาจากประเทศจีน ฝั่งตะวันออกกลาง และ CLMV (ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) รายได้อยู่ที่ 944 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8% YoY และ ทรงตัว QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ A.N.B. Laboratories Co.,Ltd (“ANB”) ua: Medicpharma Co., Ltd. (“MP”]
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 37.7% เพิ่มขึ้น 0.9% YoY และ 1.7% QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 19.3% เพิ่มขึ้น 0.4% YoY แต่ลดลง 0.9% QoQ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิของ BDMS อยู่ที่ 0.12 เท่า ณ สิ้นเดือน ก.ย.
แนวโน้ม
กำไรหลักไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ หนุนโดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของผู้ป่วยในไทยและผู้ป่วยต่างชาติ เราคาดรายได้ธุรกิจการแพทย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดจะลดลง YoY และ QoQ (รายได้ที่เพิ่มขึ้น)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กำไรหลัก 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรปี 2566 (คิดเป็น 77% ของประมาณการตลาด) เราคาด BDMS จะรายงานกำไรหลักทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในปี 2566 ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท (สูงกว่าระดับ ก่อนช่วงโควิดปี 2562 อยู่ 38%) ปัจจัยหนุนจะมาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจการแพทย์ 9% และการรักษาอัตรากำไรหลักในระดับสูงที่ 13.9% เราคาดว่าธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติจะฟื้นต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวจีน และการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางและข้อกำหนดในการกักตัว
คำแนะนำ
ผลประกอบการไตรมาส 3/66 ที่ดีกว่าตลาดคาด และแนวโน้มปี 2567 ที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะกลาง-ยาว แนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสม BDMS เนื่องจากคาดการณ์การฟื้นตัวของอุปสงค์ผู้ป่วยชาวจีนในปีนี้ (ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนกำไรหลัก) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2567 ที่ 33.50 บาท (จากสมมติฐาน WACC ที่ 6.9% และ Terminal Growth ที่ 2%]