บล.พาย:

BBIK: Bluebik Group PCL

กำไรสูงสุดใหม่ พร้อมกับการเติบโตในปี 2024

มีกำไรสุทธิ 81 ล้านบาท (+282%YoY, +9%QoQ) ใน 4Q23 ทำสถิติกำไรสูงสุดติดต่อกัน 4 ไตรมาส เป็นไปตามที่เราและ BB consensus คาด หนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ JV นำโดย Orbit ที่เพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านบาท (+ 771%YoY, +159%QoQ) จากฐาน Backlog ที่อยู่ในระดับสูง ส่วนกำไรจากการดำเนินการอยู่ที่ 66 ล้านบาท (+109%YoY, -6%QoQ) ส่งผลให้กำไรทั้งปี 23 อยู่ที่ 278 ล้านบาท (+119%YoY) เราปรับลดประมาณการณ์กำไรเล็กน้อยในปี 2024 เป็น 391 ล้านบาท (+40%YoY) สะท้อนจากสัดส่วน Backlog ณ สิ้นปีเทียบกับเป้าหมายของปี 2024 ที่ 43% เทียบกับ 58% ณ ปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม BBIK ยังคงเติบโตในปี 2024 +40%YoY เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 115 บาท เทียบเท่ากับ 27.9xPE’24E หรือคิดเป็น 0.87 PEG เมื่อเทียบกับการเติบของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ (CAGR 32%) BBIK ประกาศจ่ายปันผล 0.38 บาทต่อหุ้น และจ่ายเป็นหุ้นปันผล 1: 0.84 ณ วันที่ 30 เม.ษ. ส่งผลให้ราคาเป้าหมายเป็น 62.5 บาทต่อหุ้นหลังจากประกาศปันผล

กำไร 4Q23 ยังแข็งแกร่ง YoY และ QoQ

  • BBIK มีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 81 ล้านบาท (+282%YoY, +9%QoQ) จากการส่งมอบงาน โดยปกติไตรมาส 4 เป็นไตรมาสส่งโปรเจ็คประจำปีและส่วนแบ่งกำไรจาก JV งวด 4Q23 มีการรับรู้มากขึ้น
  • รายได้ที่ 372 ล้านบาท (+167%YoY, +11%QoQ) มีการส่งมอบโปรเจ็คเพิ่มเติม รวมไปถึงรายได้จาก Innoviz และ Valcan ที่ถูก M&A เข้ามาใน 1Q23 มีการรับรู้รายได้ Orbit ในสัดส่วนที่มากขึ้นในไตรมาส 4 โดยรายได้ที่ลดลงดังกล่าว จะถูกนำไปเพิ่มในส่วนกำไรจาก JV แทน
  • อัตรากำไรขึ้นต้นที่ลดลงเหลือ 45% จากไตรมาสก่อนที่ 53% เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ Orbit ในสัดส่วนที่มากขึ้นในไตรมาส 4 (GPM น้อยกว่า 10% เทียบกับระดับปกติที่ 50%) อีกทั้งยังมีการรับรายได้แบบ Subscription ซึ่งกำไรน้อยกว่า (อ้างอิงจาก GPM ของ Innoviz ที่ 40%)
  • ส่วนแบ่งกำไรจาก JV อยู่ที่ 23 ล้านบาท (+771%YoY, +159% QoQ) มาจากกำไรส่วนแบ่งของ Orbit ที่เติบโตขึ้น จากการรับรู้ Backlog ในสัดส่วนที่มากขึ้น
  • รวมทั้งปี BBIK มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท (+132%YoY) และมีกำไรสุทธิ 278 ล้านบาท (+119%YoY) โดยสัดส่วนการเติบจากกำไรการดำเนินการที่ +89.1%YoY และกำไรจาก JV +23.4%YoY

คาดกำไรของปี 2024 เติบโตแข็งแกร่งที่ 40%

  • BBIK ให้เป้าหมายการเติบโต 50% โดยเราประมาณการกำไรในปี 2024 เป็น 391 ล้านบาท (+40%YoY) มาจาก 1) การดำเนินการหลัก +31%YoY 2) ส่วนแบ่งกำไรจาก JV +3%YoY 3) สัดส่วนการถือหุ้นของ Innoviz +4%YoY 4) อัตราภาษีที่ลดลง +1%YoY เราปรับประมาณการลงเล็กน้อยตาม Backlog ที่น้อยลง เราเชื่อว่า BBIK มีความสามารถในการแข่งขันที่จะหนุนการเติบโตจากประวัติการทำงาน และความชำนาญที่มากขึ้น ส่งผลให้รายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 23% มากกว่ามูลค่าที่เติบโต 15-20%
  • BBIK มี Backlog สิ้นงวด 4Q23 ที่ 863 ล้านบาท แบ่งเป็นรับรู้ในปีในปี 24 ที่ 579 ล้านบาทคิดเป็น 43% เมื่อเทียบกับประมาณการรายได้ของเราในปีดังกล่าวหากเทียบกับของของสิ้นงวด 4022 ที่ 607 ล้านบาท (นับเฉพาะที่รับรู้ในปี 23 หรือคิด 57% ของรายได้ในปีที่ผ่านมา โดยทางบริษัทมองว่าการ bidding ในช่วง 1H24 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นปัจจัยทางฤดูกาล โดยทางลูกค้ายังคงแบ่งงานเป็นหลายเฟส (ระมัดระวังจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ)
  • ยังคงมองหาการเติบโตในต่างประเทศที่มีศักยภาพดี อาทิ เวียดนาม, มาเลเซียและฟิลิปปินส์
  • การจ่ายเป็นหุ้นปันผล เพื่อให้ 1) เก็บสภาพคล่องสำหรับโอกาสเติบโตธุรกิจทั้ง Organic และ In-Organic 2) เพิ่มสภาพคล่องในตลาด 3) เป็นหนึ่งในแผนเพิ่ม ทุนจดทะเบียนให้เป็นไปตามเกณฑ์เข้า SET

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ที่มูลค่าพื้นฐาน 115 บาทต่อหุ้น คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC: 11.9%, TG: 5% เทียบเท่ากับ 27.9XPE’24E หรือคิดเป็น 0.87 PEG เมื่เทียบกับการเติบของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ (CAGR 32%)

- Advertisement -