รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

SET Outlook & Strategy
SET Outlook
ประเมินดัชนีฯ ผันผวน ความกังวลในตลาดต่างประเทศต่อนโยบาย Fed ลดลง แต่การติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวลงก่อนประชุม OPEC+ …

ตลาดสะท้อนความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ต่อนโยบายการเงินไปค่อนข้างมาก ตัวแปรที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะเริ่มสงบนิ่ง (รอข่าวใหม่) Bond Yiled 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงมาต่ำกว่า 1.50% คืนที่ผ่านมา ปิดที่ 1.4789% ค่าเงินดอลล่าร์ ทรงตัวแถวๆ 91.9 จุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีของตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มีความกังวลมาก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก …

ความกังวลต่อการติดเขื้อ Covid-19 ของสหรัฐฯ-ยุโรป กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอังกฤษที่เริ่มถูกแบนการเดินทางกันแล้ว จากเยอรมันและฮ่องกง เป็นตัวแปรที่เข้ามารบกวนตลาดอยู่บ้าง รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาก็มาจากเรื่องนี้ด้วย …

การประชุม OPEC+ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ คาดกันว่า OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 0.5-1.0 ล้านบาร์เรล/วัน หลังประเมินว่าถ้าไม่เพิ่ม supply ที่ขาดอยู่ราว 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน จะดันราคาน้ำมันขึ้น หาก OPEC เพิ่มกำลังการผลิตจะเป็นลบต่อราคาน้ำมันดิบด้วย กระทบต่อหุ้น PTTEP …

สถานการณ์ Covid-19 ในไทย ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง เช้านี้รายงาน +4.6 พันคน จากนี้ไปตัวเลขจะขึ้นกับมาตรการควบคุมที่มีผลไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม การระบาดรอบนี้ กระทบต่อภาคการผลิตและก่อสร้าง คาดจะทำให้ดัชนีฯ ฟื้นตัวได้ช้าลงไปด้วย สำหรับการเปิดประเทศ จำนวนคนมาเที่ยวจะผกผันกับผู้ติดเชื้อรายวันของไทยและของทั่วโลก …

ตัวแปรอื่นๆ ที่ต้องติดตาม คือ ค่าเงินบาท เช้านี้อ่อนค่าลงไปถึง 32.02 บาท/ดอลล่าร์แล้ว อาจเป็นสัญญาณลบต่อตลาดหุ้น เพราะกังวลเรื่องการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ ครม.จะประชุม วาระสำคัญคือ เคาะเงินเยียวยา วงเงินเยียวยา 7.5 พันลบ. (มีผลต่อตลาดน้อยมาก)

Strategy
ตามที่ประเมินว่า ตลาดยังแข็งแรงถ้าดัชนีฯ ยืนเหนือ 1570 จุดได้ (จะดีมากขึ้นถ้าวันนี้ปิดเหนือ 1580 จุด) แต่วันนี้ ตลาดถูกทดสอบด้วยตัวแปรต่างประเทศที่ออกมาในทางลบ รวมทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าลงแตะ 32.0 บาท แล้ว ทำให้วันนี้ ตลาดน่าจะผันผวนสูง การลงทุนในระยะนี้ เรายังแนะนำให้ชะลอดูทิศทางตลาด หรือเข้าลงทุนแบบเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในหุ้นที่มีข่าวบวก …

พอร์ตหุ้นวันนี้เราเลือกขายทำกำไรหุ้น BCH และถือเงินสดเพิ่มขึ้น หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย STA(15%), AGE*(15%), SIMAT*(15%), SAT(10%), TU(10%), EA*(15%)
* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

Strategy Stock Pick
TU: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 21.00 บาท) “ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สะท้อน Outlook บริษัทที่ฟื้นตัว”
• ธุรกิจ Frozen เริ่มดีขึ้นพร้อมกับธุรกิจอาหาร (Red Lobster) หลังการคลาย Lockdown, ช่วงปลายปีเตรียมนำ TFM เข้าตลาด
• ตรียมเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Plant base ล่าสุดจับมือกับทาง วี ฟู้ดประเทศไทย โดยเรามองอุตสาหกรรมนี้อยู่ในช่วงเติบโตสูง
• KTBST ประเมินกำไรปี 2021-2022 ที่ 6.5 พัน ลบ. และ 6.8 พัน ลบ. +4.4%YoY, +5.4%YoY ตามลำดับ

Technical : AJ, SONIC

Key Events
• 30 มิ.ย.: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย
• 4 ก.ค..: ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค

News Comment
( + ) หุ้นที่ได้รับผลดีจากมาตรการเยียวลูกจ้าง 1 เดือน 2,000 บาท พร้อมจ่ายประกันสังคม 50%

Company Report
( + ) KKP (ซื้อ/เป้า 65.00 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q21E เติบโตได้ดีจากสินเชื่อและธุรกิจหลักทรัพย์ช่วยหนุน
( 0 ) ADVANC (ซื้อ/เป้า 205.00 บาท) คาดกำไร 2Q21E ถูกภาระต้นทุนโครงข่ายและภาวะเศรษฐกิจกดดัน

Economic Outlook
• ตลาดสหรัฐฯ เกิดการหมุนเวียนลงทุนผ่านการขายกลุ่มวัฏจักรและเข้าลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ในกลุ่ม FAANG และกลุ่มผู้ผลิตชิพที่ยังมีแนวโน้มรายงานผลกำไรประจำไตรมาส 2 ออกมาดี ขณะที่กลุ่มพลังงานมีการปรับตัวลงก่อนการประชุม OPEC และกลุ่มการเงินโดยแรงกดดันจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวลง

• ยอดจำหน่ายสินค้าปลีกในญี่ปุ่นทรงตัวใกล้เคียงเดือนก่อนหน้า ออกมาที่ 8.2% YoY สะท้อนการบริโภคภาคครัวเรือนที่เติบโตขึ้นภายหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศบรรเทาลงจากเดือนก่อนหน้า โดยหมวดสินค้าที่ขยายตัวคือจักรยานยนต์ พลังงาน และอุปกรณ์ใช้ในบ้าน

What to Watch
ติดตามการรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของเยอรมนี คาดว่ามีแนวโน้มชะลอการขยายตัวในเดือนมิ.ย. ส่งสัญญาณชะลอแรงกดดันเงินเฟ้อต่อการดำเนินนโยบายการเงินทั่วโลก เนื่องจากผลกระทบจากฐานต่ำปีก่อนหน้าและการเกิดเงินเฟ้อจากอุปสงค์ที่มาจากการเปิดเมืองลดลงจากช่วงก่อนหน้า

- Advertisement -