วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,586.28 จุด เพิ่มขึ้น 7.11 จุด หรือ 0.45%
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดเช้าที่ 1,586.28 จุด เพิ่มขึ้น 7.11 จุด หรือ 0.45% มูลค่าการซื้อขาย 39,974.24 ล้านบาท

5 หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด
1.KBANK ปิดที่ 119.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,368.70 ลบ.
2.RCL ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,596.48 ลบ.
3.BANPU ปิดที่ 15.70 บาท ลดลง -0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,102.63 ลบ.
4.GUNKUL ปิดที่ 4.80 บาท ลดลง -0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,078.97 ลบ.
5.SCGP ปิดที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 957.63 ลบ.

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แข็งแกร่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดเอเชียที่ต่างติดลบ โดยเฉพาะตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบกัน แต่ตลาดในกลุ่ม TIP ยังบวกได้บ้าง จากความกังวลการแพร่ระบาดดควิด-19 ในหลายประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อขยับขึ้น ส่วนบ้านเราแม้ดัชนีฯจะขึ้น แต่ก็เจอแรงขายกดระหว่างทางเช่นกัน ทำให้ตลาดฯเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์รอดูสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด ซึ่งหุ้นที่ขึ้นไปก็มาจากหุ้นที่ปรับตัวลงมากในช่วงก่อนหน้านี้ และได้แรงซื้อจากหุ้น SCC และหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีช่วยหนุน โดยยังจะต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำที่จะทยอยประกาศออกมา และการประชุมกลุ่มโอเปกที่มีขึ้นในวันที่ 1 ก.ค.นี้

ส่วนเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่า น.ส.ภาวิณี จิตต์มงคลเสมอ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า วันนี้อ่อนค่าไปแตะระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ มีปัจจัยหลักมาจากต่างประเทศ เพราะไม่ใช่เงินบาทสกุลเดียว แต่ค่าเงินของหลายประเทศในภูมิภาคก็ปรับตัวอ่อนค่าเช่นกัน เพียงแต่เงินบาทอาจจะอ่อนค่าไปมากกว่าสกุลเงินอื่น จากสถานการณ์ภายในประเทศ คือ ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยังไม่สามารถเปิดประเทศเพื่อรับการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศได้อย่างเต็มที่

ส่วนภาวะเงินทุนไหลออกนั้น พบว่าตั้งแต่ต้นปีจะเห็นการออกไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ขณะที่ตลาดพันธบัตร ยังเป็นเงินทุนไหลเข้า และยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ น่ากังวล แต่จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
“เราเห็นการออกไปลงทุนของคนไทยที่ค่อนข้างเหนือกว่าคาดหมาย ด้วยสถานการณ์โลกที่เอื้อให้ผลตอบแทนของต่างประเทศค่อนข้างดี จึงเห็นการออกไปลงทุนสูงเป็นประวัติการณ์ เราเปิดพอดี เป็นช่องทางให้นักลงทุนลงทุนสามารถไปใช้หาอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในต่างประเทศได้” น.ส.ภาวิณี กล่าว

- Advertisement -