รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

รุกฆาตตลาดหุ้น
Trading Range
  อยู่ในกรอบ 1570 – 1590

PICKS OF THE DAY
HMPRO : BUY
• รับประโยชน์จาก“WFH” : COVID-19 ที่การระบาดรุนแรงขึ้นทำให้จำนวนผู้ WFH เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อสินค้าแต่งบ้าน, ครัวและสวนของบริษัท นอกจากนี้คาดได้ประโยชน์จากโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบ VAT ทั้งมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ
• คาดกำไร 2Q64 โตสูง y-y : คาดกำไร 2Qโตสูง y-y จากการ Lockdown ขณะในปีนี้มีเพียงการปรับเวลาเปิดปิดห้าง

RT : BUY
• เก็งกำไรประกาศผลรถไฟทางคู่ : คาดบริษัทมีโอกาสได้รับงาน Sub-Contract อุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ หลังทราบผลผู้ชนะ ซึ่งคาดรู้ผล 9 ก.ค. 64
• ผ่อนคลายล็อกดาวน์ก่อสร้าง : คาดบริษัทได้รับอานิสงส์บวก หลังรัฐบาลประกาศคลายล็อกงานก่อสร้างที่อาจเกิดอันตรายหรือความเสียหาย หากหยุดก่อสร้างทันทีหรือล่าช้า ซึ่งครอบคลุมงานบางส่วนที่ RT กำลังดำเนินการอยู่ (ท่อลอดสายไฟใต้ดิน)

ตลาดหุ้นวันนี้
• อยู่ในกรอบ : คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1570 – 1590 จุด ท่ามกลางปัจจัยลบเดิมจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันและการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตาในประเทศ ขณะที่ปัจจัยหนุนทางเชิงบวกเล็กๆ น่าจะมาจากภายนอก โดยคาดอาจเห็นการเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน หลัง OPEC+ ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องกำลังการผลิตและถูกเลื่อนการตัดสินใจร่วมออกไปอย่างไม่มีกำหนด
• OPEC+ คุยไม่จบ คาดราคาน้ำมันดิบโลกไปต่อ : วานนี้ OPEC+ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องกำลังการผลิตร่วมกันได้ ทาให้แผนการเพิ่มกาลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ ในเดือน ส.ค. และช่วงที่เหลือของปี ยังไม่มีตัวเลขออกมาชัดเจน แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางกลุ่มจะเสนอให้เพิ่มกำลังการผลิตราว 4 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่ข้อเสนอนี้ก็ถูก UAE ปักตกไป เป็นผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. เช้านี้ (8.10 น. ตามเวลาไทย) พุ่งขึ้นแตะที่ 76.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ ทางฝ่ายคาดว่าราคาน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มจะแกว่งตัวอิงทางขึ้นได้ต่อ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของอุปทานน้ำมันดิบโลกที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็นจำนวนเท่าไหร่ อัพเดต
• COVID-19 สายพันธุ์หลักในประเทศ : ล่าสุด สธ. เปิดเผยสัดส่วนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งประเทศ ตั้งแต่ช่วง 1 เม.ย. – 2 ก.ค. 64 พบสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) 81.98 % รองลงมาคือสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) 16.36 % และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) 1.66 %
ทางฝ่ายแนะนำให้เฝ้าระวังปัจจัยนี้ใกล้ชิด จากข้อมูลในสัปดาห์ก่อน เดิมพบสัดส่วนการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาราว 12.3% แต่เพียงระยะเวลาไม่นานสัดส่วนการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาก็เพิ่มสัดส่วนขึ้นมาเป็น 16.36% ของการแพร่ระบาดทั้งหมด ทางฝ่ายจึงมองปัจจัยนี้เป็นปัจจัยหลักที่คอยกดดัน SETI
• เหตุระเบิดโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกที่กิ่งแก้ว : เบื้องต้นทางฝ่ายมองผลกระทบเป็นเพียงระยะสั้น ไม่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งได้แก่ AOT, CHG, CPN, CRC, SF, SKR และ TNH

- Advertisement -