บล.เคทีบีเอสที :

คาดกำไร 2Q21E ยังทำสถิติสูงสุดใหม่
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 35.00 บาท (เดิม 30.00 บาท) อิง 2021E PER ที่ 40.0x (avg peer 34x) จากการปรับกำไรปี 2021E/22E ขึ้น โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q21E จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 616 ล้านบาท (+321% YoY, +13% QoQ) หนุนโดย

1) รายได้สูงสุดในประวัติการณ์ที่ 6.42 พันล้านบาท จาก
i) การขยายสาขาอีก 1 สาขา
ii) SSSG เติบโต +25%YoY (1Q21=+20%) จากฐานต่ำใน 2Q20 และราคาเหล็กที่ยังสูงกว่าปีก่อน

2) GPM ปรับขึ้นมาที่ 22.5% จาก
i) เจรจากับ supplier ให้ส่งของผ่าน DC ลดค่าใช้จ่ายลง
ii) DOHOME size L สาขาใหม่ทำได้ดีเกินเป้า ซึ่งทำให้ product mix ดีขึ้นและหนุน margin
iii) ส่งเสริมการขายสินค้าที่มี margin สูง

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021E ขึ้นมาที่ 2.03 พันล้านบาท (+180% YoY) จากการปรับ
1) SSSG ขึ้นมาที่ +18% (เดิม +15%) YoY โดยได้อานิสงส์จาก
i) รัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หนุนภาคการก่อสร้าง
ii) การระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่มีวงกว้าง ทำให้ผู้คนมีการ WFH และได้ตกแต่งซ่อมแซมที่พักอาศัยมากขึ้น
iii) สาขาในภาคอีสานได้รับผลกระทบของโควิดน้อยกว่าภาคกลาง และเมืองท่องเที่ยว และ
2) GPM ปรับขึ้นมาที่ระดับ 21.5% (เดิม 20.5%)

ราคาหุ้น Outperform SET +47%/+125% ใน 3 และ 6 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะ “ซื้อ” จากผลประกอบการณ์ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนุนโดยการระบาดของโควิดที่เป็นวงกว้างทำให้คนมีการอยู่บ้านและมีการตกแต่งซ่อมแซมที่พักอาศัยมากขึ้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะหนุนการก่อสร้าง รวมทั้งการขยายสาขาเพิ่มอีกปีละ 4-5 สาขา อีกทั้งยังมีการปรับกลยุทธ์การบริหารให้ GPM สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

Event: 2Q21E earnings preview
ประเมินกำไรสุทธิ 2Q21E ทำสถิติสูงสุดใหม่ คาดกำไรสุทธิใน 2Q21E ที่ 616 ล้านบาท
(+321% YoY, +13% QoQ) หนุนโดย
1) รายได้สูงสุดในประวัติการณ์ที่ 6.42 พันล้านบาท (+39% YoY, +5% QoQ) จาก
i) จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 สาขา ทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 26 สาขา (เทียบ 2Q20= 22 สาขา)
ii) SSSG เติบโต +25% จากฐานต่ำใน 2Q20 และราคาเหล็กที่ยังสูงกว่าปีก่อน
 2) คาด GPM ปรับตัวดีขึ้นมาที่ 22.5% (จาก 1Q21=21.7% และ 2Q20=14.9%) แม้ราคาเหล็กเริ่มปรับตัวลง

อย่างไรก็ตามคาดบริษัทสามารถ maintain การเติบโตของ GPM ได้อย่างต่อเนื่องจาก
i) เจรจากับ supplier ให้ส่งของผ่าน DC ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง
ii) DOHOME size L สาขาใหม่ทำได้ดีเกินเป้า ซึ่งทำให้ product mix ดีขึ้นและหนุน margin
iii) ส่งเสริมการขายสินค้าที่มี margin สูง

Implication
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021/22E ขึ้น +16%/+17% เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2021E ขึ้นมา +16% ที่ 2.03 พันล้านบาท (+180% YoY) หลักๆ มาจากการปรับ
1) SSSG ขึ้นมาที่ +18% YoY (เดิม +15% YoY) โดยได้อานิสงส์จาก
i) รัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หนุนภาคการก่อสร้าง
ii)การระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่มีวงกว้าง ทำให้ผู้คนมีการ WFH และได้ตกแต่งซ่อมแซมที่พักอาศัยมากขึ้น
iii) DOHOME มีหลายสาขาในภาคอีสาน ซึ่งได้รับผลกระทบของโควิดน้อยกว่าภาคกลาง และเมืองท่องเที่ยว และ
2) GPM ปรับขึ้นมาที่ระดับ 21.5% (เดิม 20.5%)

นอกจากนี้ เราปรับกำไรสุทธิปี 2022E ขึ้น +17% มาที่ 2.25 พันล้านบาท (+11% YoY) หลักๆ มาจากปรับ GPM ขึ้นมาที่ 21.5% (เดิม 20.0%) เนื่องจากเรามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าบริษัทจะสามารถรักษา margin ได้อย่างยั่งยืน ด้วยการปรับกลยุทธ์ในการบริหาร อาทิเช่น การสั่งของต่อรองกับ supplier โดยหันมาใช้ DC มากขึ้น การปรับสาขาใหม่เป็น DOHOME size L ที่มีขนาดเล็กลง และเลือกการวางสินค้าที่มี margin สูงขึ้น

Valuation/Catalyst/Risk
ประเมินราคาเป้าหมายปี 2021E ที่ 35.00 บาท อิง 2021E PER 40.0x (peer average อยู่ที่ 34x) โดยเรามองว่า DOHOME เหมาะสมที่จะเทรดสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม เนื่องจาก EPS คาดจะเติบโตด้วย CAGR (2020-23E) สูงสุดที่ +50% เทียบกับ GLOBAL ที่ 25% และ HMPRO ที่ 15%

- Advertisement -