ตลาดหุ้นวันนี้
แกว่งตัวในกรอบ อิงทางลง:
คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบอิงทางลงระหว่าง 1565 – 1585 จุด ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศทที่ต้องลุ้นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายวันอย่างใกล้ชิดอันจะส่งผลต่อการพิจารณามาตรการ Lockdown ที่จะมีตามมา ด้านปัจจัยภายนอกการอ่อนตัวต่อเนื่องของราคาน้ามันในตลาดโลก (WTI ปิดย่อตัว 1.59%) ถือเป็นปัจจัยหลักที่คอยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวอิงทางลง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ยังคงปรับตัวลงต่อมาที่ระดับ 1.32% หลังรายงานการประชมุ FED รอบเดือนมิ.ย. ส่งสัญญาณยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย /ลดวงเงิน QE ในเร็วๆ นี้ อาจช่วยประคองการย่อตัวบางส่วน
รายงานการประชุม FED รอบ มิ.ย. เผยยังไม่พร้อมขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและลดวงเงิน QE เร็วๆ นี้:
ล่าสุด FED เปิดเผยรายงานการประชุมรอบ มิ.ย. โดยให้รายละเอียดว่ามีกรรมการ FED บางท่านที่มองว่าเศรษฐกจิสหรัฐฯมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่กรรมการส่วนใหญ่ยังคงมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในตอนนี้ยังไม่ถึงจุดที่ FED ตั้งเป้าไว้ คือ “การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” ตอนนั้นถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ FED จะเริ่มดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวหรือก็คือการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและลดวงเงิน QE เป็นต้น ส่วนมุมมองที่มีต่อตัวเลขเงิน เฟ้อของสหรัฐฯ FED ยังคงมุมมองเดิมว่าการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ในภาพรวมจึงส่งให้วานนี้หุ้น สหรัฐฯและยุโรปปรับตัวขึ้นเบาๆ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลทิ้งท้ายไว้ว่าในการประชมุ FED รอบหน้ากรรมการ FED อาจเริ่มพิจารณาปรับสัดส่วนการใช้วงเงิน QE 1.2 แสนล้านดอลลาร์สรอ. ต่อเดือน ซึ่งในปัจจุบันวงเงินดังกล่าวถูก แบ่งเป็นสองส่วนคือ 1) ใช้ซื้อ Treasury วงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์สรอ. และ2)ใช้ซื้อ Mortgage-BackedSecurities วงเงิน 4หมื่นล้านดอลลาร์สรอ.
ศบค. อาจพิจารณา Lockdown หาก สธ. เสนอ:
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยว่าการประเมินมาตรการคุมเข้ม (Partial Lockdown ที่ใช้อยู่) ยังเป็นวันที่ 12 ก.ค. น้ี แต่ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็อาจจะประเมินเร็วกว่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลังเผยว่า เมื่อครั้ง Lockdown รอบ เม.ย.63 คลังฯใช้งบประมาณเยียวยากว่า 3 แสนล้านบาทแต่ยังไม่สามารถเยียวยาประชาชนได้อย่างทั่วถึง
ตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม:
คืนนี้สหรัฐประกาศ 1)ยู้ ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกตลาดคาดเพิ่มขึ้น 3.5 แสนราย ลดน้อยลงจากครั้งก่อนหน้าที่มีจำนวนราว 3.64 แสนราย และ 2) สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯตลาดคาดลดลง 4.03 ล้านบารเ์รล แม้จะยังลดลงต่อเนื่องแต่น้อยกว่าครั้งก่อนที่ลดลงราว 6.72 ล้านบาร์เรล