Today’s Strategy
จิตวิทยาการลงทุนค่อนข้างเปราะบาง
- ทิศทาง SET INDEX เมื่อวานนี้ อ่อนแรงกว่าท่ีคาด เพราะตลาดหุ้นไทย Rebound ได้แค่ช่วง ต้นของชั่วโมงการซื้อขาย แต่ยืนระยะไม่อยู่ ก่อนจะปิดลบเล็กน้อย สวนทางกับภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ สะท้อนจากดัชนี MSCI Asia Pacific ex Japan ที่ปิดบวกราว 0.74% สะท้อนจิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นไทยท่ีค่อนข้างเปราะบางและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
- กระแสเงินทุนก็ไม่ได้เอื้อต่อการฟื้นตัว โดยเมื่อวานนี้ กองทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิพร้อมกันราว 1.83 พันล้านบาท และ 1.67 พันล้านบาท ตามลำดับ มูลค่าการซื้อขาย ของ SET ลดลงจาก 8.5 หมื่นล้านบาท เหลือ 7.5 หมื่นล้านบาท
- ปัจจัยสาคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ (1) การแถลงของประธาน Fed ต่อคณะกรรมการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา รอบกลางปีระหว่างวันท่ี 14-15 ก.ค. (2) ฤดูกาลรายงานผล ประกอบการ 2Q64 ของไทย เร่ิมจาก TISCO วันท่ี 15 ก.ค.นี้ ส่วนของสหรัฐฯ เช่น JP Morgan และ Goldman Sachs จะรายงานวันนี้ (13 ก.ค.) ด้าน Bank of America, Citi Group และ Wells Fargo จะรายงานวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.)
- บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจวันนี้ได้แก่ PTTGC ประกาศดีลลงทุนใหญ่ในต่างประเทศ และ ICHI เราคาดกำไรปกติ 2Q64 ราว 149 ล้านบาท เติบโต 23.9% QoQ และ 2.5% YoY
- เราประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้างจนถึงพักตัว กรอบการเคลื่อนไหว 1,540-1,560 จุด เราคาดว่าหุ้นท่ีแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q64 เติบโตเด่น จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าภาวะตลาดโดยรวม
Yuanta Picks
สะสม NER
ราคาปิด 7.15 บาท แนวต้านทางเทคนิค 7.60 บาท
ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ คาดกำไรปกติ 2Q64 ที่ 473 ลบ. ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัท เติบโต +196% YoY และ +13% QoQ พร้อมคาดเงินปันผล 1H64 หุ้นละ 0.16 บาท ให้ Dividend Yield 2.3%
แนวโน้มกำไร 2H64 คาดอัตรากำไรจะดีขึ้น HoH จากการรับรู้ต้นทุนยางสตอ็กใหม่ท่ีราคาต่ำลง เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขขึ้นจากเดิม 36% เป็น 1.77 พันลบ. และปี 2565 ขึ้น 34% เป็น 1.87 พันลบ. ราคาปัจจุบันซื้อขายท่ี PER2564 เพียง 7 เท่า
เก็งกําไร CKP
ราคาปิด 5.45 บาท แนวต้านทางเทคนิค 5.70 บาท
เราคาดว่าผลประกอบการ 2Q64 จะออกมาดีมาก จากแรงหนุนหลังจีนปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาทีแม่น้ำโขงเป็นจำนวนมาก และการเกิดพายุโซนร้อนในลาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี
CKP ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าไซยะบุรีสัดส่วน 42.5% จึงได้ประโยชน์โดยตรงจากยอดขายไฟของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ใน 2Q64 ขณะท่ี 3Q64 คาดผลประกอบการจะดีต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ฤดูมรสุมซึ่งเป็น High Season จึงเป็น 1 ในหุ้นท่ีน่าสนใจเพื่อเก็งกำไรจากการเข้าสู่ Earnings Season
สะสม GPSC
ราคาปิด 73.00 บาท แนวต้านทางเทคนิค 75.00 บาท
GPSC ได้ประโยชน์จากกำไรของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่มีแนวโน้มโดดเด่นใน 2Q64 เนื่องจากถือหุ้นในโครงการไซยะบุรีสัดส่วน 25% ดังนั้น คาดว่ามีโอกาสที่งบ 2Q64 จะดีกว่าคาดการณ์เดิมของตลาด เราคาดกำไรปี 2564 เติบ โต +12% YoY เป็น 9.7 พันลบ. และเป็นผู้เล่นหลักในกลุ่ม PTT ในธุรกิจ EV Battery ราคาปัจจุบันซื้อขายท่ี PER2564 ระดับ 21 เท่า มี Discount เมื่อเทียบกับ GULF และ BGRIM
เก็งกําไร BPP
ราคาปิด 17.20 บาท แนวต้านทางเทคนิค 17.80 บาท
ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 17.80 บาท แนวรับ 17.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 16.60 บาท
คาดกำไรปกติ 2Q64 เติบโต YoY จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้า Nakoso ขณะท่ี Catalyst คือ การเริ่มจ่ายไฟ (COD) ของโรงไฟฟ้า SLG ในจีนใน 3Q64 หากเป็นไปตามแผนงานจะเป็นบวกต่อราคาหุ้น
Market Recap
SET Index วานนี้เคลื่อนไหวบวกสลับลบ โดยปิดตลาดท่ี 1,549.84 จุด ลดลง 2.25 จุด (-0.14%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.5 หมื่นล้านบาท
หุ้น Most Active PTTGC (-6.41%), CHG (-8.76%), BCH (-6.93%), KCE (+3.74%), PTT (-0.67%)
กระแสเงินทุน
หุ้นนักลงทุนสถาบันภายในประเทศขายสุทธิเป็นวันท่ี 4 มูลค่า 1.8 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิมูลค่า 701 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนสถาบันภายในประเทศมีสถานะขายสุทธิสะสม 4.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันท่ี 4 มลูค่า 1.7 พันล้านบาท จํกวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิมูลค่า 74 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุน ต่างชาติมีสถานะขายสุทธิสะสม 8.4 หมื่นล้านบาท
SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ ราว 843 สัญญา โดย QTD มียอด Short สุทธิสะสมราว 1.1 หมื่นสัญญา ตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 6 วัน มูลค่า 702 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 131 ล้านบาท
Factors
(0) ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อมีมติ 4 ประเด็น 1) ให้ฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน เช่น AstraZeneca ในเข็มท่ี 2 สาหรับผู้ที่ฉีด Sinovac เป็นเข็มแรก เพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ 2) ให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แบบบูสเตอร์โดยเว้นระยะห่างจากเข็มท่ี 2 ระยะ 3-4 สัปดาห์ 3) ให้ใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test ในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานกว่า 300 แห่งเพื่อลดการรอคิวจากการตรวจ RT-PCR 4) เห็นชอบแนวทางการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และแยกกักในชุมชน (Community Isolation) สำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง
(-) น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดท่ี 74.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัส โควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัส
(+) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,996.18 จุด เพิ่มขึ้น 126.02 จุด หรือ +0.36% ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก ก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และโกลด์แมนแซคส์จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
(0) หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลวูบ นักลงทุนกังวลใช้ Rapid Test ตรวจเชื้อเอง บิ๊ก BCH ยันก่อนรักษาต้องตรวจคอนเฟิร์ม PCR (Swab) ที่โรงพยาบาลคอนเฟิร์มเร่งเดินหน้าขยายเตียงรองรับ ด้าน THG เจรจาร่วมกับหน่วยงานภาครัฐบาลจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เพิ่มเติม “ไบโอเอ็นเทค-โคโวแวกซ์” คาดล็อตแรกไม่เกินสิงหาคมนี้
(0) PTTGC ทุ่มงบหนัก 1.5 แสนล้านบาท เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน Allnex Holding GmbH ผู้ประกอบธุรกิจ Coating Resins สู่ปลายน้ำ ยันไม่ต้องเพิ่มทุนเหตุได้กู้เงินจาก PTT 7.39 หมื่นล้านบาท ด้านโบรกชี้หุ้นวูบกังวลด้านสภาพคล่องเป็นจังหวะซื้อ มั่นใจเงินสดพอ อย่าลืมมีเงินสด 4 หมื่นล. และเพิ่งขาย GPSC ได้เงิน 2.5 หมื่นล้าน มองต่อยอดธุรกิจ
(0) Block Trade ที่สถานะคงค้างปรับตัวเพิ่มขึ้น และส่งสัญญาณบวกคือ CKP, BEC ส่วนตัวที่สถานะคงค้างเพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณลบคือ CHG, THANI
