รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Selective and Earnings Play//Accumulate at around 1,530-1,540+-

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways และปิดบวกได้เล็กนอ้ย 2.36 จุด ณ สิ้นวัน โดยยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามยังมีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาหนุนอย่างกระจายตัวและแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวก สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 939 ลบ.และ 1.2 พันลบ. ตามลำดับ (สถานะ Index Futures ไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งในแดนลบในกรอบ 1,560-1,570 จุด จากทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงหลัง OPEC+ บรรลุข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือน ส.ค. เป็นต้นไป กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่ในประเทศถูกกระทบจากการ Lockdown เพิ่มเป็น 13 จังหวัดและมีมาตรการที่เข้มขึ้นมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. นี้เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทำให้กลุ่ม Domestic Play ยังถูกกดดัน

โดยปัจจัยสำคัญคือการเร่งนำเข้าและฉีดวัคซีน COVID-19 ให้รวดเร็วที่สุด ในเชิงกลยุทธ์จึงยังเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและธุรกิจไม่ถูกกระทบจากมาตรการคุมเข้มและมีแนวโน้มกำไร 2Q21-3Q21 ที่แข็งแกร่ง ได้แก่ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มขนส่ง กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มส่งออกอย่างอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ส่วนจังหวะอ่อนตัวลงหาแนวรับ 1,530-1,540 จุดมองเป็นจังหวะในการสะสมหุ้น Domestic Play รอการฟื้นตัวช่วงปลายปีต่อเนื่องปีหน้า

กลยุทธ์ : เก็งกำไรเป็นรายตัวที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวและงบ 2Q21 โดดเด่น//สะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณ 1,530-1,540+-

หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : BDMS, DOHOME, EPG, KCE, SONIC

หุ้นเด่นวันนี้ : CHG
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายทางเทคนิค 4.40-4.50 บาท
แนวโน้มกำไร 2Q21 คาดทำ New High ตามกลุ่มฯจากอานิสงส์ของ COVID-19 ระลอก 3 หนุนรายได้ตรวจเชื้อและรักษาให้พุ่งขึ้น ขณะที่รายได้ประกันสังคมยังเป็นฐาน Cash Cow ที่แข็งแรง
ล่าสุด CHG มี Capacity ในการักษารวมกว่า 2,800 เตียง (Hospital 300+ เตียงและ Hospitel 2,500+ เตียง คาดกำไร 3Q21 ยังเร่งขึ้นทำ New High ต่อเนื่องและทำให้ประมาณการกำไรปี 2021 ที่คาด +26% Y-Y มี Upside อย่างมาก และอยู่ระหว่างปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากปัจจุบันที่ 4 บาท
แนวรับ 4 บาท แนวต้าน 4.40-4.50 บาท

Fund Flow: เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$926 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$861 ล้าน ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินยังผสมผสาน ไหลเข้าไทยสูงสุดในภูมิภาค US$36 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังไหลออกหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ตลาดเริ่มกลับมากังวลเงินเฟ้อที่เร่งตัวอีกครั้ง

ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) หุ้นที่คาดกำไร 2Q21 โดดเด่น KCE HANA DOHOME GLOBAL EPG SONIC LEO EKH CHG BCH BDMS NER JWD JR TTA IIG TU SAPPE SC SPALI

(+) กลุ่มการแพทย์ เราคาดกำไร 2Q21 จะออกมาโดดเด่นอย่างมาก เติบโตทั้ง Q-Q และ Y-Y อย่างแข็งแกร่งจากอานิสงส์ของการตรวจเชื้อและรักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่พุ่งขึ้นจากการระบาดระลอก 3 ที่รุนแรง เราชอบ BCH CHG EKH BDMS

BCH – จัดประชุมนักวิเคราะห์ด่วนเมื่อวันศุกร์ ผู้บริหารช้อมูลเชิงบวกอย่างมาก โดยคาดกำไร 3Q21 ยังพุ่งขึ้นต่อจาก 2Q21 โดยล่าสุดวันที่ 1-15 ก.ค. ที่ผ่านมามีการตรวจเชื้อ COVID-19 แล้ว 1.32 แสนเคส (2Q21 ตรวจ 5.88 แสนเคส) ขณะที่การรักษาปัจจุบันมีการเพิ่ม Hostpital+Hospitel เป็น 8,500 เตียง (2Q21 อยู่ที่ 2,500 เตียง) ทำให้ประมาณการกำไรปี 2021 มี Upside อย่างมาก และมีโอกาสปรับราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 28 บาทขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”

PR9 – คาดกำไร 2Q21 ไม่สดใส –59% Q-Q, +38% Y-Y เนื่องจากมีการหยุดบริการเปลี่ยนไตในเดือนเม.ย.จากความกังวล COVID-19 ที่กลับมาระบาด อย่างไรก็ตามคาดกำไร 3Q21 จะฟื้นตัวดีและรายได้การรักษา COVID-19 จะชดเชยบริการอื่นๆได้ เราปรับลดกำไรปี 2021 ลงเป็น -2% Y-Y แต่ปรับเพิ่มปี 2022 ขึ้นเป็น +82% Y-Y ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 14 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) DTAC กำไรปกติ 2Q21 ดีกว่าคาด +21% Q-Q, -24% Y-Y จากการควบคุมต้นทุน ซึ่งชดเชยรายได้ที่ยังหดตัวได้ พร้อมประกาศจ่ายปันผล 1H21 ที่ 1.05 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 3.5% ยังคงราคาเป้าหมาย 40 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) DITTO ผู้บริหารให้เป้าเชิงบวกโดยคาดรายได้โต 10-15% ในปี 2021 โดยเฉพาะแรงหนุนจากบริการแปลงเอกสารและข้อมูลเป็นดิจิทัล ปัจจุบันมี Backlog 650 ลบ. รองรับการเติบโตใน 2H21 และแนวโน้มได้งานเพิ่มเติมที่อยู่ระหว่างประกวดราคาจากศาลยุติธรรมและกรมที่ดิน และงาน SCADA รวมวงเงินกว่า 1 พันลบ. ระยะสั้นคาดกำไร 2Q21 -28% Q-Q, +16% Y-Y และจะเร่งขึ้นใน 2H21 เราคาดกำไรปี 2021-2022 +38% Y-Y และ +36% Y-Y ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 21 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 ก.ค. ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ นำเข้า-ส่งออก (มิ.ย.)
จีน: Loan Prime Rate 1Y
22 ก.ค. ยูโรโซน: ประชุม ECB
อินโดนีเซีย: ประชุมธนาคารกลาง
23 ก.ค. อังกฤษ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
ยูโรโซน: Markit Flash Manufacturing PMI (ก.ค.)

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 299.17 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 34,687.85 จุด จากการปรับลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด COVID-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นในสหรัฐ นอกจากนี้ ยังเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับลงเป็น 80.8 ในเดือนก.ค. จาก 85.5 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 86.5

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการปรับลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ และการแพร่ระบาด COVID-19

(-) ตลาดเอเชียปรับลง ตามทิศทางของตลาดดาวโจนส์ และตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่สูงขึ้นในหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังถูกดดันจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.ไปถึงเดือนธ.ค. 2021

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 32.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 71.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ฟื้นตัวหลังปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ยังถูกกดดันจากคาดการณ์ว่าสมาชิกในกลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 14 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,815 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,028.55 / -5.82

- Advertisement -