คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันน้ี

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว เพื่อรอความชัดเจนของรายงานผลกำไรกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ และผลประชุมเฟดวันพรุ่งนี้ (ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ) แนวรับ 1535 / 1530 จุด แนวต้าน 1555 / 1560 จุด แนะนำ เก็งกำไร MORE NYT SIMAT ทางเทคนิคหากดัชนีฯ ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1575 จุดได้ ภาพใหญ่ยังคงเป็นทิศทางขาลง โดยมีแนวรับสำคัญท่ี 1535 จุด

ปัจจัยลบ:

  1. ศบค. มีแนวโน้มต้องออกมาตรการล็อกดาวน์ท่ีเข้มงวดมากขึ้น หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 และผู้เสียชีวิตสุดสัปดาห์ท่ีผ่านมา พุ่งข้ึนแรง โดยอาจส่งผลกระทบลุกลามไปยังภาคการส่งออก เกิด Supply Disruption อาทิ โรงงานโตโยต้า ต้องสั่งปิด 3 โรงงาน หลังพบคลัสเตอร์โรงงานแอร์โรว์
  2. ธปท. เผยมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อ 2021E GDP หายไป 0.8-2.0% และการยกเลิกมาตรการกักตัวอาจต้องล่าช้าไปจนถึง 2Q-3Q22

ประเด็นอื่นๆที่ต้องติดตาม

  • จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศที่ยังคงพุ่งข้ึนต่อเนื่อง (เพิ่มข้ึน 2 เท่า ใน 1 สัปดาห์) จะส่งผลให้ศบค. ต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มมากขึ้น (Lockdown เต็มรูปแบบ กระทบหุ้นอิงการบริโภคในประเทศท่องเท่ียวและอาจกระทบต่อภาคส่งออก)
  • ตลาดหุ้นทั่วโลกชะลอลงทุน เพื่อรอความชัดเจนของผลประชุมเฟดวันพรุ่งน้ี และรายงานผลกำไร 2Q21E กลุ่มเทคโนโลยีสหรฐั ฯ นำโดย Apple, Alphabet, Microsoft (กลุ่มเทคโนโลยีมีสัญญาณบวกหากกำไรดีกว่าคาดและเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย)
  • IMF รายงานทบทวนเศรษฐกิจโลกวันน้ี คาดปรับเพิ่มเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกสูงข้ึน (+หุ้นกลุ่มอิงวัฏจักรเศรษฐกิจโลก)
  • รายงานภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.ค. พบว่ายังคงมีการขยายตัวแม้จะปรับลดลง MoM เพราะอุปสงค์มีสูง แต่เกิด Supply Disruption

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

– ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: แรงขายทำกำไรก่อนเทศกาลหยุดยาว ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาเคลื่อนไหวลดลงกรอบ 1553.25-1540.35 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1545.10 จุด -7.26 จุด วอลุ่มซื้อขายเบาบาง 5.95 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มธุรกิจการเกษตร -1.2% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -0.85% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -0.84% หุ้นบวก >4% MORE PSL 7UP SNNP TSTH APURE NEX INSET AS HTECH CSP ARIN JUTHA TEAM PAP SECURE BC SLP ANKO SAM THE 2S หุ้นลบ >4% WICE TNDT GREEN ACAP TRT SKE FORTH CPW SONIC PLANB SAMART FN GTB

+/- หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก และหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดใหม่ DJIA +0.24% (+82.76 จุด) S&P500 +0.24% Nasdaq +0.03% เป็นผลจากรายงานภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ทำสถิติสูงสุดใหม่และผลกำไรบจ. ที่ดีกว่าคาด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่สี่ CAC40 +0.15% DAX -0.32% FTSE100 -0.03% จากแรงซื้อหุ้นอิงวัฏจักรเศษฐกิจหลังผลประชุมอีซีบีส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และรายงานภาคบริการเดือนมิ.ย.สูงสุดรอบ 21 ปีหลังการทยอยเปิดประเทศ

+/- น้ำมันดิบปิดคละ แต่ทองคำปิดลบ: ราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัว จากคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบโลกครึ่งหลังปีน้ีฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก โดย WTI -16 เซนต์ ปิดท่ี USD71.91/บาร์เรล Brent +40 เซนต์ ปิดท่ี USD74.50/บาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำกลับมาปิดลดลง –USD2.50 อยู่ที่ USD1,803.40/ออนซ์ จากแนวโน้มค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่า

ประเด็นสำคัญ

– SET: หลักทรัพย์ท่ีเข้าข่ายมาตรการกำกับซื้อขายระหว่างวันที่ 27 ก.ค. – 3 ก.ย. ได้แก่ SOLAR SST-W2 TMI UPA และขยายช่วงตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. – 13 ส.ค. ได้แก่ WINMED NCL

+  IMF: เตรียมทบทวนประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกและรายภูมิภาคใหม่วันน้ี หลังจากเดือน เม.ย. ปรับเพิ่ม 2021E GDP เติบโตเป็น 6% (เดือน ม.ค. คาด 5.5%) แบ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้วเติบโต 5.1% (เดิม 4.3%) และประเทศกำลังพัฒนาเติบโต 6.7% (เดิม 6.3%) เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นอิงเศรษฐกิจโลก (Cyclical Play)

+  USA: 2Q21E Earnings Results สัปดาห์น้ีจะมี 108 บจ. ที่คำนวณในดัชนี S&P500 Index และ 10 บจ. ที่คำนวณในดัชนี DJIA รายงานงบการเงิน จับตา Apple, Alphabet, Amazon, Facebook, Microsoft, Boeing, 3M, P&G

+/- Global PMI Mfg/Service เดือน มิ.ย.: รายงานภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.ค. พบว่า ยังคงมีการขยายตัว แม้จะปรับลดลง MoM โดยสหรฐัฯรายงานภาคการผลิตเดือนมิ.ย.สูงสุดเป็นประวัติการณ์และอียูรายงานภาคบริการเดือนมิ.ย.สูงสุดรอบ 15 ปี

+ ไทย: รายงานดุลการค้าไทยเดือน มิ.ย. ดีขึ้น MoM โดยเกินดุล USD0.95bn Vs เดือน พ.ค. +USD0.8bn เป็นผลจากส่งออกขยายตัวสูงสุดรอบ 11 ปี +43.82% YoY (Vs เดือน พ.ค. 41.59%) นำเข้า +53.75% YoY (VS เดือน พ.ค. 63.54%)

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

ห้นุ แนะนำรายสัปดาห์: NYT PSL ROJNA
ห้นุ แนะนำเก็งกำไร: MORE NYT SIMAT
Derivatives: แนะเปิด Short S50U21 เก็งกำไรหลัง 10:30 น.

- Advertisement -