บล.เอเซียพลัส:
ทิศทางกำโร 2Q64 ยังเด่น YoY
2Q64 คาดกำไรปกติ 251 ล้านบาทโตเด่น 71%yoy หนุนจากยอดโอนฯ เพิ่ม 21%yoy เท่ากับ 1.1 พันล้านบาท โดยสัดส่วน 60% มาจากการโอนฯ Kave Town Shift และ Space ที่มีมาร์จิ้นสูง คาดดันให้ Gross Margin ขายฯ 2Q64 เพิ่มเป็น 7.5% และ Norm Profit Margin ยืนสูง 22.4%
คาดกำไรปกติ 1H64 เท่ากับ 518 ล้านบาทคิดเป็น 48% ของเป้าหมายกำไรทั้งปี จึงคงประมาณการกำไรปีนี้ตามเดิมที่ 1.08 พันล้านบาท โดยแนวโน้ม 2H64 ยังมีแรงหนุนจากการส่งมอบคอนโดฯ ใหม่อีก 2 โครงการ คือ Kave TU เดือน ก.ย. และ Modiz สุขุมวิท 50 ใน 4Q64 อิงระดับ PER 8 เท่า FV ปี 2564 เท่ากับ 11.40 บาทราคาหุ้นมี upside 27% และ PER ซื้อขาย 6.3 เท่า พร้อมคาดปันผลปีนี้ 6.4% แนะนำซื้อ
คาดกำไรปกติ 2Q64 โดดเด่น 71% yoy แต่ลดลง 6% qoq
งวด 2Q64 คาดกำไรปกติ 251 ล้านบาท (+71%yoy, -6%qoq) โดยประเมินรายได้ขายอสังหาฯ 1.1 พันล้านบาท (+21% yoy, 4.4%qoq) จากการส่งมอบต่อเนื่องของโครงการกลุ่ม Kave Town นำโดย Kave Town Shift ที่เริ่มโอนฯ ตั้งแต่ 1Q64 และ Kave Town Space (โอนฯ ตั้งแต่ 4Q63) คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของยอดโอนฯ รวมและมีมาร์จิ้นที่สูงคาดหนุนให้ Gross Margin ขายฯ 2Q64 เฉลี่ยที่ 47.5% สูงกว่า 2Q63 ที่ระดับ 39% ขณะที่ SG&A/Sales ประเมินไว้ 19% ใกล้เคียงงวดก่อน แต่ลดลงจาก 21% งวดปีก่อน ตามฐานรายได้สูงขึ้น ภาพรวม Norm profit Margin ยังยืนระดับสูง 22.4
2H64 มีแผนส่งมอบอีก 2 คอนโดฯ ใหม่
คงประมาณการโดยคาดกำไรปกติ 1H64 เท่ากับ 518 ล้านบาท คิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรทั้งปี ขณะที่ 2H64 ยังมีแรงหนุนจากการส่งมอบคอนโดฯ ใหม่อีก 2 โครงการ ได้แก่ Kave TU มูลค่า 1.8 พันล้านบาท (ยอดขายราว 80%) จะเริ่มโอนฯ ก.ย. ตามด้วย Modiz สุขุมวิท 50 มูลค่า 2.1 พันล้านบาท (ยอดจอง 40%) ภายใน 4Q64 ทำให้ทั้งปี 2564 คงคาดกำไรปกติ 1.08 พันล้านบาท (+24%yoy)
แนะนำซื้อ… PER ซื้อขาย 6.3 เท่า และ Div Yield 6.4%
คงระดับ PER 8 เท่า FV เท่ากับ 11.40 บาทราคาปัจจุบันมี upside 27% และ PER ซื้อขายไม่แพงที่ 6.3 เท่า พร้อมคาดปันผลภายใต้ Payout Ratio ระดับ 40% อยู่ที่ 0.57 บาท/หุ้น เทียบเป็น Yield 6.4% จึงแนะนำซื้อ
ประเด็นความเสี่ยง
- ตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ ความเชื่อมั่นต่อการสร้างรายได้ในอนาคตของผู้ซื้อ หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาด ก็จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการตัดสินซื้อโครงการ ส่งผลให้ยอดขายและยอดโอนไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้
- ระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้การควบคุมเรื่องประสิทธิภาพการทำกำไรทำได้ยากขึ้น
