บล.เอเชียเวลท์:
บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) ผลประกอบการหดตัว YoY เหตุการต้ังสำรองกดดัน
- กำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2%QoQ แต่ลดลง 3.6%YoY หลังรับปัจจัยกดดันจากการตั้งสำรอง
- กำไรสุทธิ 1H64 รวมอยู่ที่ 854 ล้านบาท ลดลง 5.9%YoY คิดเป็น 42.9% ของประมาณการทั้งปี 64 ของเรา
- แนวโน้ม 3Q64 เป็นบวก QoQ จากการตั้งสำรองที่ลดลงและต้นทุนทางการเงินที่ลดลงต่อเนื่อง
- คงราคาเป้าหมายไว้ท่ี 4.72 บาท
- ปรับคำแนะนำเป็น “เก็งกำไร”
กำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 428 ล้านบาท
บริษัทรายงานผลประกอบการ 2Q64 ที่ 428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2%QoQ แต่ลดลง 3.6%YoY การปรับตัวลดลง YoY สาเหตุหลักมาจากการรตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น 115.3%YoY จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างไรก็ดี กำไรก่อนการตั้งสำรอง 2Q64 อยู่ที่ 669 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1%QoQ และเพิ่มขึ้น 6.3%YoY โดยปัจจัยบวก YoY มาจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นตามค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงตามต้นทุนทางการเงินที่ลดลง กำไรสุทธิ 1H64 รวมอยู่ที่ 854 ล้านบาทลดลง 5.9%YoY ปัจจัยหลักมาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น 20.0%YoY คิดเป็น 42.9% ของประมาณการทั้งปี 64 ของเรา
แนวโน้มผลประกอบการใน 3Q64
เราคาดผลประกอบการกำไรสุทธิ 3Q64 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY การปรับเพิ่มขึ้น QoQ จาก (1) การตั้งสำรองที่จะลดลงจากการจัดการ NPL ของบริษัท ในการเน้นยึดรถสำหรับลูกหนี้ที่ไม่สามารถกลับมาชำระคืนหนี้ได้หลังในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือในการผ่อนผันค่างวด ในขณะที่แนวโน้มการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในช่วง 2H64 จะชะลอตัวหลังจากในช่วง 1H64 ที่เพิ่มขึ้น 2.3%YTD สาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจที่กดดันส่งผลให้บริษัทเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น และ (2) แนวโน้มของต้นทุนทางการเงินที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ออกหุ้นกู้รวม 4.5 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ยที่ 2.00-2.35% ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนทางการเงินปัจจุบัน ทั้งนี้ปัจจัยการปรับตัวลดลง YoY เนื่องจากประเด็นของการตั้งสำรองของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจากใน 3Q63 ที่ 37 ล้านบาท จากผลกระทบของการแพร่ระบาดส่งผลให้ลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดมากขึ้น
คงราคาเป้าหมายไว้ที่ 4.72 บาทและปรับคำแนะนำเป็น “เก็งกำไร”
เราคงราคาเป้าหมายของ THANI เอาไว้ที่ 4.72 บาท จากปัจจุบัน Upside ค่อนข้างจำกัด รวมไปถึงแนวโน้มของพอร์ตสินเชื่อที่จะชะลอตัวในช่วง 2H64 และความเสี่ยงที่ทางด้านเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เราจึงปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “เก็งกำไร”