ผันผวน- บล.โกลเบล็ก: (ภาคเช้า) 21/10/64

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อขาย เป็นการรีบาวด์หลังจากท่ีดัชนีปรับตัวลงในวันก่อนหน้า จากการขายอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบัน โดยเป็นแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารท่ีมีแรงซื้อเข้ามาช่วงท้ายตลาด จากการเก็งกำไรงบไตรมาส 3 ประกอบกับมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นที่ลดลงเนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,637.55 จุด +7.16 จุด +0.44% มูลค่าการซื้อขาย 67,918 ลบ. ต่างชาติ +4,580.87 ลบ. TFEX +16,423 สัญญา ตราสารหน้ี +971.10 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 152.03 จุด +0.43% ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ +1.1% ปิดที่ 83.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

+ FDA ของสหรัฐอนุมัติการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแล้ว พร้อมระบุว่าสามารถเลือกฉีดวัคซีนบูสเตอร์ยี่ห้อที่แตกต่างไปจากวัคซีนที่ฉีดครบโดสก่อนหน้า

+ หอการค้าไทยคาดมาตรการเพิ่มกำลังซื้อส่งท้ายปีดัน GDP ปี 64 โต 1-1.5%

+ รมว. คมนาคมเผยดอนเมือง-สุวรรณภูมิพร้อมรับเปิดประเทศคาดระยะแรก 4 หมื่นคน/วัน

+/- สบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในประเทศวันนี้เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า แต่ยังต่ำกว่าระดับหมื่นราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 9,727 ราย มีผู้เสียชีวิต 7379 ราย รักษาหาย 10,075 ราย

ปัจจัยลบ

– ยอดส่งออกรถยนต์ของญี่ปุ่นทรุดตัวลง 40.3% YoY ในเดือนก.ย. เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ชะงักงันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลก

– แพทย์ของอังกฤษมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อีกครั้ง เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อและเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งทะยานขึ้นอีก

– ปธน.วลาดิเมียร์ปูตินผู้นำรัสเซียอนุมัติข้อเสนอของรัฐบาลรัสเซียในการสั่งปิดสถานที่ทำการของภาคธุรกิจทั่วประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตในรัสเซีย

– FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนก.ย. ลดลง 1.1% คงตัวในเกณฑ์ร้อนแรง หวังแผนการฉีดวัคซีนช่วยคลี่คลาย Covid-19 ฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจับใหม่เข้าหนุน Fund Flow นักลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูงช่วงพยุงตลาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1630 1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ: TOP SPRC ESSO PTTGC
• ครม. ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง: ROJNA WHA EGCO
• หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO

หุ้นรายงานพิเศษ

EKH- “คาดกำไร 3Q64 ทำ New High (Bloomberg Consensus 8.75 บาท)”

• (+) คาดแนวโน้มรายได้และกำไรงวด 3Q64 เติบโตแรงทำนิวไฮ ได้แรงหนุนจาก High Season และยอดผู้ป่วยโควิด -19 ภายในประเทศที่เร่งสูงขึ้น ทำให้ยอดผู้ป่วย IPD โดดขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ซึ่งเดิมเฉลี่ย 140 ราย/วัน สู่กว่า 500 ราย/วัน หากนับเฉพาะยอดแอดมิดสำหรับผู้ป่วยโควิด -19 ในเดือน 7 เพียงเดือนเดียวเพิ่มกว่า 1,000 ราย เทียบกับช่วง 2Q64 ทั้งไตรมาสที่ 885 ราย ส่วน% GPM คาดเร่งสูงขึ้นเช่นกัน ตามจำนวนเคสการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีมาร์จิ้นสูง โดยผบห.ปรับเป้าการเติบโตของรายได้ทั้งปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 40% YoY จากเดิมคาดโต 20% YoY
• (+) ความเห็นเรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตในช่วง 2H64 จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายลง EKH ยังมีธุรกิจ IVF (การทำเด็กหลอดแก้ว) และธุรกิจใหม่ “ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ” ที่ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดจะแล้วเสร็จช่วงกลางปีหน้ามารองรับการเติบโตโดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 ราว 248.5 ลบ. +245% YoY (กำไร 1H64 เท่ากับ 99.4 ลบ. คิดเป็น 40% ของประมาณการทั้งปี 64)

หุ้นมีข่าว