บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
SRI TRANG-AGRO INDUSTRY กำไรปรับสู่ฐานระดับปกติ
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +44.1%
Close Jan 18, 2022 Price (THB) 29.50
12M Target (THB) 42.50
Previous Target (THB) 45.00
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 2,817 ลบ. (-25.0%QoQ, -45.2%YoY) ลดลง QoQ จากธุรกิจถุงมือยางที่ราคาขายเฉลี่ยปรับลงราว 23% ส่งผลต่อรายได้ และ GPM
- ธุรกิจยางธรรมชาติดีขึ้นต่อเนื่อง ท้ังในด้านปริมาณขายจากอุปสงค์ของโลกที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และราคาขายเฉลี่ยที่จะปรับขึ้นตามวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ของยางพารา
- คาดปันผลจ่าย 4Q64 ที่ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 3.3%
Our View
- เราคงมุมมองบวกต่อธุรกิจยางธรรมชาติที่คาดยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องในปี 2565
- เราปรับประมาณการปี 2564 ขึ้น 1% แต่ปรับกำไรปี 2565 ลง 2% เพื่อสะท้อนอัตราการใช้กำลังการผลิต ธุรกิจถุงมือยางที่น้อยกว่าคาด และธุรกิจยางพาราที่แนวโน้มเติบโตชัดเจน
- ผลของการปรับประมาณการทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 42.50 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 ที่ต่ำ เพียง 5.0 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว และคาดหวังคาดหวังเงินปันผล
กำไรถุงมือยางหดดึงผลประกอบการต่อ
คาดกำไรปกติ 4Q64 ของ STA ที่ 2,817 ลบ. (-25.0% QoQ, -45.2% YoY) แม้ธุรกิจยางธรรมชาติยังเติบโตต่อทั้งในแง่ของปริมาณขาย และราคาขายเฉลี่ย โดยปริมาณขายเฉลี่ยคาดดีขึ้น 11% QoQ เป็น 3.45 แสนตัน จากอุปสงค์ล้อยางที่สูงทั้งในเอเชียและยุโรป และได้อานิสงส์การเริ่มย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการล้อยางของโลกจากอินโดนีเซียมาไทยแทน ราคาขายเฉลี่ยคาดปรับขึ้นเป็น 175 Cent/kg จาก 3Q64 ที่ 171 Cent/kg QoQ ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวลงราว 23% แม้จะถูกชดเชยบางส่วนด้วยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็นราว 7,300 ล้านชิ้น จาก 3Q64 ที่ 7,000 ล้านชิ้น กระทบ GPM โดยรวม ซึ่งคาดลดลงเป็น 24.2% จาก 3Q64 ที่ 28.6% จากสัดส่วนรายได้ และ GPM ของธุรกิจถุงมือยางที่ลดลง ประกอบกับค่าขนส่งทางเรือที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดกระทบ SG&A/Sales เพิ่มเป็น 7.4% จาก 7.1% ใน 3Q64 แต่จากผลประกอบการธุรกิจถุงมือยางที่ยังลงต่อ
2565 ยางพาราดีขึ้นชัดเจน … ปรับกำไรถุงมือยางลง แต่ปรับกำไรยางพาราขึ้น
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 ของ STA คาดยังชะลอ QoQ จากธุรกิจถุงมือยางที่ยังชะลอต่อ อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าราคาขายเฉลี่ยของถุงมือยางจะไม่ได้ปรับลงไปมากกว่านี้อย่างมีนัยยะแล้วในช่วงที่เหลือของปี และธุรกิจยางธรรมชาติมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อ ทั้งในด้านปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ย ปริมาณขายคาดเติบโตจาก demand ล้อยางทั่วโลกที่สูงขึ้น และการย้ายฐานการผลิตจากอินโดนีเซียมาไทย ส่วนราคาขายเฉลี่ยคาดสูงขึ้นตามวัฏจักรขาขึ้นของราคายางธรรมชาติ ดังนั้น สัดส่วนกำไรธุรกิจยางธรรมชาติที่จะมีนัยยะมากขึ้นในปีนี้ และปัญหาการขนส่งทางเรือที่คาดจะคลี่คลายมากขึ้น เรามองว่ากำไรของ STA มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาเติบโต QoQ ได้หลัง 1Q65 เป็นต้นไป
เราได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ขึ้น 1% เป็น 18,085 ลบ. แต่ปรับกำไรปี 2565 ลง 2% เป็น 9,152 ลบ. จากการปรับกำไรธุรกิจถุงมือยาง เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่น้อยกว่าที่คาดไว้ เพราะปัญหาการขาดแคลนตู้กระทบการส่งออก แต่ปรับประมาณการกำไรธุรกิจยางพาราขึ้นจากการปรับสมมติฐานปริมาณขายปี 2565 เพิ่มเป็น 1.5 ล้านตัน ใกล้เคียงเป้าหมายบริษัท จากเดิมที่ 1.4 ล้านตัน และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มเป็น 176 Cent/Kg ซึ่งยังต่ำกว่าราคาปัจจุบันที่ราว 178 – 181 Cent/Kg
คาดปันผลในปี 2565 ยังเด่น … คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ผลของการปรับราคาเหมาะสมของ STGT ลงเป็น 32.50 บาท และปรับประมาณการกำไรธุรกิจยางพาราขึ้น ซึ่งการประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP ได้มูลค่าเหมาะสมใหม่สิ้นปี 2565 ของ STA ที่ 42.50 บาท ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65 ต่ำเพียง 5.0 เท่า สะท้อน Downside risk ที่จำกัด แล้วคาดเงินปันผลจ่ายงวด 4Q64 ของ STA ที่ 1.00 บาท (ให้ผลตอบแทน 3.3%) เนื่องจากบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก ทำให้เราคาดปันผลปี 2565 ที่ 2.38 บาท (ให้ผลตอบแทนสูงถึง 8.1%) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว หรือการคาดหวังเงินปันผล