Daily Strategy

ยังเน้นหาจังหวะลดพอร์ตเช่นเดิม ระยะสั้นแนะ (SAPPE SCGP)

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนพลิกกลับมาปิดบวก 1% หลังจากที่นักลงทุนคลายกังวลกับเงินเฟ้อตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงมา 2% รวมถึงผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี โดยมีผู้มาขอสวัสดิการว่างงานเพียง 1.87 แสนตำแหน่ง แตกต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีคนมาขอสวัสดิการว่างงานที่ 2.1 แสนตำแหน่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT กลับมาปรับตัวลง 2.1% หลังจากที่ EU ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซีย ขณะที่การส่งออกน้ำมัน จากบริษัท CPC ในคาซัคสถานอาจจะเริ่มกลับมา ดำเนินการได้บางส่วนในไม่ช้านี้ รวมไปถึงสหรัฐและพันธมิตรได้รายงานว่ามีความคืบหน้าที่ดีในการเจรจากับอิหร่าน ซึ่งปูทางไปยังการที่จะให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลกได้อีกครั้ง (อุปทานคลายตัว) ส่วนการประชุม NATO ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการประชุม คาดจะทราบผลในเร็วๆนี้ ด้านตลาดหุ้น Nikkei เช้านี้เคลื่อนไหว ทรงตัวเพียง +0.01% ประเมิน SET INDEX วันนี้คล้ายคลึงกัน คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1675 – 1685 เพื่อรอปัจจัย ใหม่ๆ

สำหรับในประเทศวานนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจําเดือน ก.พ. ขยายตัว 16%YoY เทียบกับ ตลาดคาดที่ 10%YoY ด้านการนำเข้าขยายตัว 16.8%YoY เทียบกับตลาดคาดที่ 19%YoY โดยรวมส่งผลเกินดุล การค้าเล็กน้อยราว 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทางกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกที่ขยายตัวมาจากเศรษฐกิจโลก ที่ขยายตัว สอดคล้องกับ Global PMI ที่ยืนเหนือระดับ 50 อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนจากยูเครน-รัสเซีย จึงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นหาจังหวะลดพอร์ตการลงทุน เพิ่มการถือครองเงินสดจากความเสี่ยงระดับ Valuation ที่ ค่อนข้างแพง และกังวลถึงความเสี่ยงปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนจากนี้สืบเนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ จะกดดันการบริโภคและอัตรากำไรบริษัท ส่วนการเก็งกำไรระยะสั้นแนะกลุ่ม Anti Oil (CBG SCC SCGP TOA TASCO)

SAPPE (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 32 บาท) คาดว่ากำไรจะเติบโตที่ 12% CAGR (2022-24) เป็น 580 ล้านบาทในปี 2567 จาก 5%CAGR (2019-21) การเติบโตจะได้รับการสนับสนุนจาก 1) การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง 2) กิจกรรมการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3) การเจาะตลาดต่างประเทศที่สูงขึ้น และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย

SCGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72 บาท) ประเมินภาพรวมกำไร 1Q22 ที่ยังแข็งแกร่ง QoQ จากราคากระดาษคราฟท์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น และปัจจัยตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยมองราคาหุ้นล่าสุดสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นไปพอสมควร

- Advertisement -