บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์:
BH เปิดเผยกำไรสุทธิ 1Q65 จำนวน 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 695.6% YoY และ 18.5% QoQ ตามรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้น หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการตรวจหาเชื้อก่อนเข้าประเทศ
BH เปิดเผยกำไรสุทธิงวด 1Q65 เพิ่มขึ้น 695.6%YoY และ 18.5%QoQ อยู่ที่ 725 ล้านบาท ตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ภายในประเทศไทยของภาครัฐ ส่งผลให้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 4,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.2%YoY โดยรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ เพิ่มขึ้น 86.8% YoY ตามกลุ่มลูกค้าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (อินโดจีน และตะวันออกกลาง) ที่เพิ่มสูงขึ้น, รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยเพิ่มขึ้น 28.2% YoY สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยใน 1Q65 อยู่ที่ 44.5% จากระดับ 53.9% ใน 1Q64 และสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ อยู่ที่ 55.5% จากระดับ 46.1% ใน 1Q64
อัตราการทํากําไรขั้นต้น GPM ใน 1Q65 ฟื้นตัวอย่างชัดเจน มาอยู่ที่ระดับ 41.6%
อัตราการทำกำไรขั้นต้น (GPM) ใน 1Q65 ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 41.6% เทียบกับ ระดับ 34.16% ใน 1Q64 เนื่องจากมีการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และค่าธรรมเนียมแพทย์เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล
แนวโน้มผลประกอบการ ปี 65
เรามองแนวโน้มการฟื้นตัวของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่จะสามารถเดินทางกลับเข้ามารับการรักษาในตัวได้สะดวกมากขึ้น หลังภาครัฐมีการปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยตรวจ ATK และไม่ต้องกักตัว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 จะส่งผลบวกต่อผลประกอบการ BH ตั้งแต่ช่วง 2Q65 เป็นต้นไป
ปรับประมาณการกำไรสุทธิ ปี 65,66 เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของจำนวนคนไข้ต่างชาติ
เราได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิ ปี 65 จากเดิม 2,281 ล้านบาท เป็น 2,645 ล้านบาท เพื่อสะท้อนการเพิ่มขึ้นของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติอย่างแข็งแกร่ง บนสมมติฐานรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% จากเดิมที่เราคาดไว้ที่ 25%, รายได้จากผู้ป่วยชาวไทย เพิ่มขึ้น 30% จากเดิมที่เราคาดไว้ที่ 25% และปรับประมาณการกำไรสุทธิ ปี 66 จากเดิม 3,027 ล้านบาท เป็น 3,183 ล้านบาท บนสมมุติฐานรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ เพิ่มขึ้น 15% ตามเดิม และรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยเพิ่มขึ้น 10% จากเดิมที่เราคาดไว้ที่ 5% เราประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 65 ไว้ที่ 192.00 บาท ด้วยวิธี DCF บนสมมติฐาน WACC ที่ 6.3% และ Terminal Growth rate 3.00% จึงแนะนำ ชื้อ
