บล.พาย: 

WICE: กำไรยังโตต่อเนื่องในปี 2022 และมี upside

คาดว่าผลกระทบจากค่าระวางที่ปรับลดลง (รายได้ 50% ของบริษัทสัมพันธ์กับค่าระวาง) จะได้รับการชดเชยจากรายได้การขนส่งข้ามพรมแดน และธุรกิจโลจิสติกส์ที่โตขึ้น และอัตรากำไรการดำเนินงานที่ดีขึ้น

  • นับรวมผลกระทบจากการปิดพรมแดนของจีนและค่าระวางที่ค่อยๆ ปรับลดลงเข้ามาในประมาณการแล้ว โดยคาดว่าปัญหาเหล่านี้จะกลับสู่ระดับปกติเหมือนก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 อย่างค่อยเป็นค่อยไป ประมาณการายได้ของเราที่ 8.2 พันล้านบาทถือว่ารัดกุมเพราะคิดลด 9% จากเป้าหมายของผู้บริหาร
  • กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 158 ล้านบาท (+93%YoY, -13%QoQ) กำไร QoQ หดตัวลงจากยอดสูงใน 4Q21 ซึ่งเป็นผลจากรายได้การขนส่งทางอากาศและข้ามพรมแดนที่ลดลง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลงจาก 27.10 บาท เป็น 19.30 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ลง 10% มูลค่าพื้นฐานนี้ถึง 21.4XPE’22E หรือที่ค่าเฉลี่ย 5 ปี ซึ่งคิดเป็นส่วนลด 60% ต่อค่าเฉลี่ย กลุ่มขนส่งของไทย ทั้งนี้ การปรับลด PE ชี้ให้เห็นว่าค่าระวางได้ผ่านจุดสูงไปแล้ว และเพื่อเป็นการสะท้อนถึงการปรับลด EPS ลง แต่ยังมี upside ที่อาจเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน ETL บน SET

WICE: Key messages from analyst meeting

คาดว่าผลกระทบจากค่าระวางที่ลดลง จะได้รับการชดเชยจากรายได้การขนส่งข้ามพรมแดน และอัตรากำไรโดยรวมที่ปรับดีขึ้น

  • คาดว่าผลกระทบจากค่าระวางที่ปรับลดลง (รายได้ 50% ของบริษัทสัมพันธ์กับค่าระวาง) จะค่อยๆ คลี่คลายลงหลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความหนาแน่นที่ท่าเรือ และสัญญาณเชิงผ่อนคลายด้านการล็อกดาวน์ของจีน คาดรายได้จากการขนส่งทางทะเลในปี 2022 จะลดลง 13%YoY เป็น 3.3 พันล้านบาท สืบเนื่องจากค่าระวางที่ลดลง แต่คาดว่าปริมาณขนส่งจะโตต่อเนื่อง 25%YoY (+92%YoY ในปี 2021)
  • คาดว่าธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน (25% ของรายได้ในปี 2021) จะยังเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในปี 2022-23 (โตเฉลี่ยต่อปีที่ 44%) โดยมีแรงหนุนมาจากการขยายเส้นทางขนส่งใหม่ที่ประกอบด้วยเส้นทางมาเลเซีย-จีน รวมถึงการขยายกำลังการผลิต (+40%YoY ในปี 2021) และลูกค้าใหม่ที่จะทำการขนส่งสินค้าผ่านช่องทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน (ผู้บริหารตั้งเป้าการขนส่งผ่านรถไฟความเร็วสูงนี้ที่ 3,000 เที่ยว หรือคิดเป็น 15% ของจำนวนเที่ยวทั้งหมดในปี 2021 ขณะที่ ETL บรรลุเป้าหมายดังกล่าวไปได้แล้ว 10% ใน 1022)
  • ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สำหรับธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนจะปรับดีขึ้นเป็น 15.0% จาก 13.2% ใน 2021 (16.2% ใน 1022 นับเป็นจุดสูงรอบ 7 ไตรมาส) เพราะ 1) การบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถส่งต่อภาระต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้ และ 2) การนำเสนอบริการการขนส่งแบบไม่เต็มรถ (LTL) ขณะที่มี upside ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำ ETL (ปัจจุบันถืออยู่ 51%) จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์บน SET ภายในสิ้นปี 2022
  • นับรวมผลกระทบจากการปิดพรมแดนของจีนและค่าระวางที่ค่อยปรับลดลงเข้ามาในประมาณการแล้ว โดยคาดว่าปัญหาเหล่านี้จะกลับสู่ระดับปกติเหมือนก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 อย่างค่อยเป็นค่อยไป ประมาณการายได้ของเราที่ 8.2 พันล้านบาทถือว่ารัดกุมเพราะคิดลด 9% จากเป้าหมายของผู้บริหาร ทั้งนี้ การปิดพรมแดนของจีนที่กินเวลาสั้นกว่าคาดอาจทำให้เป้าหมายรายได้มี upside มากขึ้น

สรุปผลประกอบการ

  • กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 158 ล้านบาท (+93%YoY, -13%QoQ)
  • การเติบโตในเชิง YoY ได้แรงหนุนจากรายได้รวมที่โตขึ้นแตะ 2.2 พันล้านบาท ซึ่งได้อานิสงส์จากการขนส่งทางทะเล (+216%YoY เป็น 1.3 พันล้านบาทและคิดเป็น 61% ของรายได้รวมใน 1Q22) โดยมีแรงขับเคลื่อนจากค่าระวางที่สูง และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับการส่งสินค้าไปสหรัฐฯ และจีน
  • กำไรที่หดตัวลง QoQ เป็นผลจากรายได้ที่ลดลง 9% ถูกฉุดลง โดยธุรกิจขนส่งทางอากาศและข้ามพรมแดน (-22%QoQ เหลือ 393 ล้านบาทและ -28%QoQ เหลือ 397 ล้านบาท ตามลำดับ)
  • GPM ฟื้นตัวจากจุดต่ำใน 4Q21 มาอยู่ที่ 15.9% ใน 1Q21 หนุนจากอัตรากำไรในธุรกิจข้ามพรมแดนที่สูงขึ้น
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขาย ปรับเพิ่มแตะจุดสูงรอบ 3 ไตรมาสที่ 7.2% จาก 5.5% ใน 4Q21 เพราะรายได้ที่ลดลง

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2022-23 ลง 10% และ 8% ตามลำดับ

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2022-2023 และ 2024 ลง 10% 8% และ 2% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดรายได้ในช่วงเดียวกันลง 14% 12% และ 10% ตามลำดับ เพราะคาดว่าการปิดพรมแดนของจีนจะดำเนินไปถึงช่วงต้น 2H22 ขณะที่คาดว่าการขนส่งทางทะเลและอากาศจะค่อยๆ ลดลงในช่วงปี 2022-23 และกลับสู่ระดับปกติภายในปี 2024 แต่ขณะเดียวกันก็ปรับลด SG&A ต่อยอดขายสำหรับปี 2022-24 ลงเป็น 6.3% เพราะมีความประหยัดต่ขนาด (economies of scale) ที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้ยังปรับเพิ่ม GPM ในช่วงปี 2022-24 ขึ้นเพื่อสะท้อนถึงการมอบส่วนลดให้กับลูกค้าที่น้อยลง สืบเนื่องจากค่าขนส่งและปริมาณขนส่งที่ลดลงและประโยชน์จากการเริ่มให้บริการ LTL รวมถึงการขยายเส้นทางขนส่งข้ามพรมแดนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการดำเนินงานโดยรวมขึ้นได้

Revenue breakdown

บริการขนส่งทางอากาศคิดเป็น 23% ของยอดขายทั้งหมด ภายใต้หน่วยธุรกิจนี้ WICE จะให้บริการด้านการจอง ระวางสายการบินและข้อตกลงด้านการขนส่ง โดยจะมุ่งเน้นการขนส่งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังแหล่งการค้าของเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน

ส่วนบริการขนส่งทางทะเลคิดเป็น 49% ของยอดขายทั้งหมด โดยจะคอยให้บริการด้านการต่อรองและจองระวาง เรือจากสายการเดินเรือที่ดีที่สุด ทั้งรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ (FCL) และแบบไม่เต็มตู้ (LCL) ซึ่ง สินค้าขนส่งส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาการส่ง (lead time) ที่นาน เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และวัสดุก่อสร้าง ส่วนเส้นทางการขนส่งทางทะเลเส้นหลักของ WICE คือจากไทยไปยังสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น

บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อก่อตั้งบริษัทย่อยชื่อ ETL เพื่อดำเนินธุรกิจบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่าง ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย กัมพูชา ลาว เมียนมา และจีน ธุรกิจนี้คิดเป็น 25% ของรายได้รวม

นอกจากนี้ยังให้บริการด้านพิธีการศุลกากร ด้วยการจัดเตรียมเอกสารและการให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ ทางภาษี พร้อมกับให้บริการขนส่งภายในด้วยรถพ่วงและรถตู้ รวมถึงบริการด้านคลังสินค้าในไทยด้วยเช่นกัน

- Advertisement -