บล.พาย:

CENTEL: การฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมหนุน EBITDA ใน 1Q22

ลดคำแนะนำจากซื้อเป็น “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 43.0 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 10%, TG of 2%) อิง 28.6xPE’23 เชื่อว่าคาดการณ์ EBITDA ที่โตแข็งแกร่งในปี 2022 สะท้อนผ่านราคาหุ้นในปัจจุบันไปแล้ว

  • ขาดทุนสุทธิ 1Q22 ที่ 44 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 476 ล้านบาทใน 1Q21 และกำไรสุทธิ 152 ล้านบาท ใน 4Q21 ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์
  • EBITDA ใน 1Q22 โตขึ้นเท่าตัว YoY แต่ยังทรงตัว QoQ ที่ 951 ล้านบาท หนุนจากธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัว แข็งแกร่ง YoY จาก 1) ภาคการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวขึ้น 2) กิจการในมัลดีฟส์ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องเพราะเป็น ช่วง high season และ 3) ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมในดูไบเนื่องจากมีงาน Dubai World Expo
  • คาดผลประกอบการยังติดลบในปี 2022 ขณะที่กิจการจะยังโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้าจนแตะระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในปี 2023

สรุปผลประกอบการ

  • ขาดทุนสุทธิ 1Q22 ที่ 44 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 476 ล้านบาท ใน 1Q21 และกำไรสุทธิ 152 ล้านบาทใน 4Q21 ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์
  • EBITDA ใน 1Q22 โตขึ้นเท่าตัว YoY แต่ยังทรงตัว QoQ ที่ 951 ล้านบาท หนุนจากธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง YoY ซึ่งได้อานิสงส์จากการเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น และมีมาตรการต่างๆ น้อยลง

ธุรกิจโรงแรม

  • EBITDA ใน 1Q22 ของธุรกิจโรงแรมยังอยู่ในแดนบวกที่ 324 ล้านบาท เทียบกับ -95 ล้านบาทใน 1Q21 ทั้งนี้ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในทุกภูมิภาคและทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์
  • อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่อคืน (RevPar) ใน 1Q22 โตขึ้น 3 เท่า YoY เป็น 1,957 บาท/ห้อง เพราะมีอัตราการเข้าพักที่โตเป็น 35% (21 ppts YoY) และอัตราราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่โต 16% YoY เป็น 5,660 บาท

ธุรกิจอาหาร

  • EBITDA ใน 1Q22 ของธุรกิจอาหารยังอยู่ในแดนบวกและโตขึ้น 8% YoY เป็น 627 ล้านบาท หนุนจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่โตขึ้น 10% YoY ซึ่งได้แรงหนุนจากการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่องของภาครัฐและการเปิดสาขามากขึ้น (+209 สาขา YoY)

ภาพรวมธุรกิจโรงแรม

  • ธุรกิจโรงแรมใน 1Q22 ฟื้นตัวขึ้นจาก 1) ภาคการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวขึ้น 2) กิจการในมัลดีฟส์ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องเพราะเป็นช่วง high season และ 3) ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมในดูไบ เนื่องจากมีงาน Dubai World Expo
  • ส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจในมัลดีฟส์ลดลงเหลือ 44% ใน 1Q22 จาก 60% ใน 2Q21 สืบเนื่องจากกิจการโรงแรมในไทยที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ คาดส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจโรงแรมในไทยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะโตอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี จนแตะระดับ 60% ของรายได้รวมในธุรกิจโรงแรมภายใน 4Q22 หลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปี หนุนจากการยกเลิกมาตรการ Test and Go ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ขณะที่คาดว่าพอร์ตในต่างประเทศจะยังแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพดีต่อเนื่อง
  • ผู้บริหารคาดอัตราการเข้าพักโดยรวมในปี 2022 จะแตะระดับ 40%-50% ด้วย RevPar ที่ยังคงอยู่ในกรอบ 1,700-1,900 บาท ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเรา

ภาพรวมธุรกิจอาหาร

  • กำไร 1Q22 ของธุรกิจอาหารโตขึ้นจาก 1) การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่องของภาครัฐ 2) อัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น และ 3) ความกังวลด้านยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่น้อยลง
  • ผู้บริหารคาด SSS ในปี 2022 จะโตในกรอบ 10%-15% ด้วยยอดขายทั้งระบบ (TSS) ที่โตในกรอบ 20%-25% และคาดถึงการขยายสาขาเพิ่ม 180-200 สาขา
  • คาดธุรกิจอาหารจะโตตลอดทั้งปี จากการที่ภาครัฐผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ บวกกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น แต่จะมีอัตราการเติบโตที่ช้ากว่าธุรกิจโรงแรม เพราะเล็งเห็นอัตรากำไรที่ลดลงเพิ่มเติมจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น

Revenue breakdown

บริษัทดำเนินธุรกิจอาหารและโรงแรม มีรายละเอียดดังนี้

  • ธุรกิจอาหาร ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,389 สาขาทั่วไทย ภายใต้แบรนด์ร้านอาหาร 15 แบรนด์ KFC, Pepper Lunch, Auntie Anne’s, Mister Donut, Chabuton, Cold Stone, The Terrace, Yoshinoya, Ootoya, Tenya, Katsuya, Aroi Dee, Suki House, Soft Air, Kowlune Salad Factory
  • ธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันมีโรงแรมทั้งหมด 15 โรงแรม จำนวน 4,155 ห้องในไทยและมัลดีฟส์ อีกทั้งบริษัทได้รับจ้างให้เป็นผู้ดำเนินกิจการและบริหารโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารโรงแรม 23 โรงแรม จำนวน 4,041 ห้องในไทย เวียดนาม ศรีลังกา อินโดนีเซีย (บาหลี) โอมาน และกาตาร์ โดยโรงแรมทั้งหมด บริหารงานภายใต้แบรนด์ ดังนี้ Centara Reserve, Centara, Centara Grand, Centra by Centara, Centara Boutique Collection และ COSI
- Advertisement -