บล.พาย: 

CRC: บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น “กำไรฟื้นตัวดี แต่สะท้อนผ่านราคาเกือบหมดแล้ว”

ปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 43.00 บาท สะท้อน 1) ภาพรวมแนวโน้มธุรกิจในอิตาลีที่ท้าทายจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในยุโรป และ 2) upside จำกัดเพราะมูลค่าหุ้นตึงตัวที่ 46.5xPE’22E และ 34.2xPE’23E คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 ที่ 1.2 พันล้านบาท (พลิกฟื้นจากขาดทุน YoY, -18%QoQ) กำไรที่ฟื้นตัว YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่แข็งแกร่งจากทุกหน่วยธุรกิจ และรายได้ค่าเช่าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นผลจากค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้น จากการเปิดสาขาใหม่และกิจกรรมการตลาด

คาดผลประกอบการไตรมาส 3/22 พลิกฟื้นเป็นกำไร

  • คาดรายได้ไตรมาส 3/22 ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท (+38%YoY, +1%QoQ) หนุนจาก SSSG ในแดนบวกของทุกกลุ่มธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารที่ +21%YoY ธุรกิจฮาร์ดไลน์ +25%YoY ธุรกิจแฟชั่น +80%YoY หนุน จากการฟื้นตัวของจำนวนลูกค้าใน 3 ประเทศ (ไทย เวียดนาม และอิตาลี) ขณะที่รายได้ค่าเช่าและบริการคาดว่าจะพุ่งเป็น 2 พันล้านบาท (+99%YoY, +5%QoQ) หนุนจากการมอบส่วนลดค่าเช่าที่ลดลงเหลือราว 2%-5% ในไตรมาส 3/22 เทียบ 7%-9% ในไตรมาส 2/22
  • ประเมินอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 3/22 โต YoY และ QoQ เป็น 27.5% หนุนจากอัตรากำไรการขายที่ดีขึ้นเป็น 25.6% จาก 23.1% ในไตรมาส 3/21 และ 25.5% ในไตรมาส 2/22 หนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดองเวียดนาม และการปรับราคาขายผลิตภัณฑ์
  • คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท แต่ SG&A ต่อยอดขายในไตรมาส 3/22 จะลดลงเหลือ 30.3% จาก 35.8% ในไตรมาส 3/21 เพราะยอดขายที่ฟื้นตัว แต่ SG&A ต่อยอดขาย QoQ จะปรับเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่และกิจกรรมการตลาด

SSSG ยังอยู่แดนบวกในเดือน ต.ค. แม้เผชิญอุทกภัย

  • คาดทิศทางกำไรแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 4/22 หนุนจากรายได้ย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น บวกกับมาตรการกระตุ้นภาครัฐ และการใช้จ่ายที่สูงช่วงท้ายปี

ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” เพราะ upside จำกัด

แม้เราจะชอบภาพระยะยาวของ CRC แต่ upside ต่อราคาเป้าหมายปัจจุบันมีอยู่ค่อนข้างจำกัด จึงลดคำแนะนำจากซื้อเป็น “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 43.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC of 8.2%, TG of 2%) เทียบเท่า 35XPE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย แต่ถ้าราคาย่อตัวลงหลังประกาศงบไตรมาส 3/22 ก็น่าจะเป็นโอกาสเข้าซื้อที่ดีสําหรับการลงทุนระยะยาว

Revenue breakdown

รายได้ของบริษัทมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่:

  • ธุรกิจกลุ่มอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 40% ของรายได้ทั้งหมด โดยส่วนนี้ประกอบด้วยซุปเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตรวม 350 แห่งในประเทศไทยและเวียดนาม และร้านสะดวกซื้อ 805 แห่งในประเทศไทย ซึ่งธุรกิจกลุ่มอาหารนั้นดำเนินงานภายใต้แบรนด์ Central Food Hall, Tops, FamilyMart, Big C (GO!), Lanchi Mart a Matsumoto Kiyoshi
  • ธุรกิจกลุ่มฮาร์ดไลน์ คิดเป็นสัดส่วน 35% ของรายได้ทั้งหมด ธุรกิจกลุ่มนี้ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า 466 แห่งในประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ไทวัสดุ Baan & Beyond, Powerbuy, B2S, OfficeMate และ Nguyen Kim
  • ธุรกิจกลุ่มแฟชั่น คิดเป็นสัดส่วน 25% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยห้างสรรพสินค้ารวม 74 แห่งในประเทศไทย และ 9 แห่งในอิตาลี ธุรกิจกลุ่มแฟชั่นนั้นดำเนินงานภายใต้แบรนด์ Central, Robinson, CMG, Supersports และ Rinascente
  • ธุรกิจให้เช่าและบริการ มีองค์ประกอบรายได้มาจากร้าน Robinson Lifestyle ในไทย 24 แห่ง, Tops Plaza 5 แห่งในไทย และ Big C / GO! 40 แห่งในเวียดนาม
- Advertisement -