บล.บัวหลวง:

True Corporation (TRUE TB / TRUE.BK)

TRUE – ราคาหุ้นที่ลงแรงจากการยกเลิกทำเทนเดอร์ถือว่าเป็นโอกาสเข้าซื้ออีกครั้ง

เนื่องจากการยกเลิกทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญโดยสมัครใจ (VTO) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น TRUE เราจึงเชื่อว่าราคาหุ้น TRUE ที่ปรับตัวลงแรงถือเป็นโอกาสของการเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้น TRUE อีกครั้ง อัพไซด์ในระยะยาวจะมาจากผลประโยชน์ร่วมจากการควบรวมบริษัท (synergy) ที่อาจจะมากกว่าที่เราคำนวณใส่เข้าไปในการประเมินมูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบัน

การยกเลิก VTO ไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของ TRUE

บริษัท ซิทริน โกลบอล จำกัด และบริษัท ซิทริน เวนเจอร์ เอสจี จํากัด ซึ่งมีเทเลนอร์และกลุ่มซีพีถือหุ้นร่วมกัน ได้ยกเลิกความตั้งใจที่จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (VTO) ต่อผู้ถือหุ้น TRUE โดยอิงตามหลักเกณฑ์การทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ ก.ล.ต. เนื่องจากกระบวนการ VTO ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาหนึ่งปี ถึงแม้ว่าขั้นตอนของการทำ VTO ได้ถูกยกเลิกไป แต่ TRUE และ DTAC ยังคงมุ่งมั่นที่จะควบรวมบริษัท TRUE-DTAC ให้สำเร็จเป็นบริษัทใหม่ ซึ่งจะดำเนินการ ต่อไปและคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/66 ทั้งนี้เรายังคงมั่นใจว่ากระบวนการรวมกิจการทั้งหมดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/66 การยกเลิก กระบวนการ VTO ถือว่าเป็นเพียงแค่ผลกระทบเชิงจิตวิทยาด้านลบในระยะสั้นต่อราคาหุ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของ TRUE แต่อย่างใด

บริษัทมั่นใจว่าสามารถจัดการกับ 5 เงื่อนไขพิเศษของกสทช.ได้

ผู้บริหารมั่นใจว่าเงื่อนไขพิเศษของกสทช. ที่ออกมาแนบท้าย 5 เงื่อนไขจะสามารถจัดการได้ และอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบ เรามองว่าเงื่อนไขพิเศษเหล่านี้เป็นข้อปฏิบัติปกติทั่วๆ ไป สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมภายใต้หลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตของกสทช. เช่น การถือครองคลื่นความถี่ การแชร์ใช้โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายร่วมกัน การรวมแผนการจัดสรรคาปาซิตี้ให้กับเอ็มวีเอ็นโอ และเป้าหมายความครอบคลุมของเครือข่าย 5 จี สำหรับมาตรการลดเพดานค่าบริการมือถือลง 12% ภายใน 90 วันไม่น่าที่จะส่งผลกระทบต่ออัตราค่าบริการ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากอัตราค่าบริการจริงของบริการเสียงและบริการข้อมูลถือว่าต่ำกว่าเพดานค่าบริการอย่างมากอยู่แล้ว ณ ปัจจุบัน โดยภาพรวมแล้ว เรามองไม่เห็นถึงความยากลำบากที่ TUC DTN และบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่ (MergeCo) จะปฏิบัติตามมาตรการพิเศษทั้ง 5 ข้อที่ออกมาโดยกสทช.

รายได้บริการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/65; คาดว่ารายได้บริการไตรมาส 4/65 ฟื้นตัวต่อเนื่อง

เราเชื่อว่ารายได้บริการของทั้งกลุ่ม TRUE ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/65 ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 2/65 และ 3/65 เราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/65 โดยจะมาจากปัจจัยหนุน ได้แก่ ช่วงไฮซีซั่นของไตรมาสสี่และรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอิงกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าวที่เพิ่มขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ เราคาดรายได้บริการของทั้งกลุ่ม TRUE ที่ 2.64 หมื่นล้านบาท

ในไตรมาส 4/65 ลดลง 0.6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 0.8% QoQ และรายได้บริการของ True Move-H ในไตรมาส 4/65 ที่ 2.02 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% YoY และ 0.7% QoQ โดยภาพรวม เราคาดรายได้บริการของทั้งกลุ่ม TRUE ที่ 1.05 แสนล้านบาทในปี 2565 ลดลง 1.7% YoY ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% YoY ไปเป็น 1.07 แสนล้านบาทในปี 2566 โดยจะมีปัจจัยหนุนมาจากภาวะเงินเฟ้อที่คลี่คลายลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะกลับมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น

ต้นทุนที่ลดลงจากข้อตกลงใหม่สำหรับการเข้าใช้คลื่น 850 เมกะเฮิร์ซกับเอ็นที

บริษัทประสบผลสำเร็จในการเจรจากับบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นทีสำหรับข้อตกลงใหม่ของการจ่ายค่าใช้คลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ซ ซึ่งภายใต้เงื่อนไขใหม่จะคิดตามอัตราการใช้งานจริงของโครงข่าย ซึ่งเปลี่ยนไปจากเดิมที่คำนวณตามคาปาซิตี้ของโครงข่ายซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ส่งผลให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายสุทธิคิดเป็นประมาณ 4-5 พันล้านบาท/ปี ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากการใช้งาน 3 จีที่ลดลงบนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ซ เราได้คำนวณผลกระทบจากต้นทุนที่ลดลงของการเช่าใช้คลื่น 850 เมกะเฮิร์ซดังกล่าวเข้าไปในประมาณการของเราแล้ว

 

- Advertisement -