รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาด SET ดูจะผันผวน
Market wrap & Outlook
- วานนี้ดัชนีบวกตามภูมิภาค หุ้นใหญ่บวกกระจายกลุ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น PTTEP BDMS CPALL AOT BBL KBANK ADVANC แต่ฝั่งลงกระจุดอยู่ที่ชิ้นส่วนฯ DELTA KCE ยานยนต์ AH SAT STANLY โรงไฟฟ้า BGRIM GPSC ขณะที่หุ้นบวกแรงวานนี้มี
- วันนี้คาด SET ดูจะผันผวน ท่ามกลางความมึนงงถึงผลกระทบจากภาษีขายหุ้นที่ยังประเมินกันได้ไม่ชัด โดยหลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการซื้อขายที่มีโอกาสจะถูกกระทบ และส่งผลต่อมูลค่าตลาดโดยรวม โดยเฉพาะหากตลาดอยู่ในสถานะ Sideways เป็นระยะเวลานานเกินไป (ยังต้องติดตามตัว กฏหมายต่อ) ส่วนผลกระทบระยะยาวหากเกิดขึ้นจริง ต้องดูการปรับพฤติกรรมของ นลท. อาจทำให้ตลาดมีเสถียรภาพขึ้น
แต่หากมองสั้นๆ ตามสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัว และมี Momentum บวกหนุน ทำให้นักลงทุนยังมีความกล้าได้กล้าเสียอยู่ จึงทำให้ดัชนีไปต่อได้ในช่วงปลายปีนี้ กลยุทธ์ยังคงแนะนำหุ้น Domestic play กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ ธนาคาร รวมทั้งท่องเที่ยว-โรงแรม และนิคมอุตสาหกรรม
What to watch
- ข่าว ครม.ไฟเขียว เก็บภาษีขายหุ้นปี 2566 โดยเริ่มที่ 0.055% ก่อน (จากเต็มเพดานที่ 0.1%) ความเห็นหลักของหลายฝ่ายที่มองไปในระยะกลาง-ยาว เริ่มส่งสัญญาณความกังวลต่อผลกระทบที่อาจทำให้สภาพคล่อง-ปริมาณซื้อขายในตลาดมีโอกาสลดลง โดยเฉพาะจากกลุ่ม High frequency trading และ Program trading (ซื้อ-ขาย บ่อยและเร็ว) ซึ่งหวังกำไรระยะสั้นๆ จึงอาจเป็นลบต่อหุ้นกลาง-เล็ก โดยเฉพาะเป็นช่วงที่ตลาดอยู่ในสถานะ Sideways เป็นระยะเวลานานเกินไป
- อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมตลาดอาจจะมีเสถียรภาพดีขึ้น ถ้า นลท. ในประเทศ ปรับพฤติกรรม เพิ่มระยะเวลาในการถือครองหุ้นยาวขึ้น เช่น นักเทรด ขาขึ้นต้องรอบวกหลายช่อง และในแง่ขา short ก็ต้องถือสักพักถึงจะคุ้มค่าคอม ขณะที่ นลท. ต่างชาติเองก็น่าจะพอรับรู้ประเด็นนี้อยู่แล้ว เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศก็มีภาษีลักษณะเดียวกัน (เช่น เวียดนามเก็บภาษีขาขาย แล้ว 0.10% เป็นต้น)
- คืนนี้ติดตามปาฐกถาของประธานเฟดเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อและตลาดแรงงาน ทำให้ในตลาดต่างประเทศชะลอการซื้อขายลง เนื่องจากรอดูท่าทีดังกล่าว // ส่วนประชุม กนง. วันนี้ ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%
- EU ประชุมวานนี้เกี่ยวกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย แต่ที่ประชุมไม่สามารถบรรลุฉันทามติ เนื่องจากสมาชิก EU ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก ในอีกด้าน มีโอกาสที่โอเปกพลัส จะมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันสำหรับ ธ.ค.ในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค. (ที่มา: infoquest)
- ที่ประชุม ครม. อนุมัติวงเงิน 6 พันล้านบาท สำหรับเยียวยาน้ำท่วม 1 ล้านครัวเรือน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ 66 จังหวัด เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน DOHOME GLOBAL HMPRO
- วันนี้ศาล รธน. จะตัดสินชี้ขาดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง (สูตรหาร 100)
หุ้นแนะนำวันนี้
- WHA ยอดขายที่ดินพุ่ง และกำไรเข้าสู่ High season พร้อมโอกาสรับอานิสงค์เพิ่มจากการย้ายฐานการผลิตจากจีน ของผู้ผลิตรายใหญ่เพื่อกระจายความเสี่ยง
- CHG ราคาหุ้น CHG ยังฟื้นตัวช้ากว่า BCH เป็นโอกาสเล่น Cath-up play หลังผลประกอบการผ่านจุดแย่ไปแล้ว
- MAJOR รับ Sentiment ความนิยมฟื้นตัว ล่าสุด “บัวผัน ฟันยับ” ฉายไปยังไม่เต็มสัปดาห์ทำรายได้กว่า 50 ล้านบาท เดือน ธ.ค. เตรียมฉลองส่งท้ายปีไปกับ “อวตาร 2 วิถีแห่งสายน้ำ” ที่กระแสก็มาแรง
Global Investing Brief: จีนส่งสัญญาณคลาย Zero-COVID ต่อเนื่อง หนุนฮั่งเส็งพุ่ง 5%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- 3 ดัชนีหลักปิดผสมเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี DJIA ทรงตัวบวก ส่วน S&P 500 -0.2% และ Nasdaq -0.6% กดดันจาก Apple (AAPL) -2.1% และ Amazon (AMZN) -1.6% ก่อนที่ เจอโรม พาวเวล จะกล่าวถึงมุมมองเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และตลาดแรงงานที่สถาบัน Brookings ในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการกล่าวถึงการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI ที่เพิ่มขึ้น 0.8% หลังได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการคลายนโยบาย Zero-COVID ในจีน โดย Chevron (CVX) +1.5% และ Exxon Mobil (XOM) +0.7%
- หน่วยงานกำกับดูแลความเป็นส่วนตัวของประเทศไอร์แลนด์สั่งปรับ Meta Platforms (META) เพิ่มเติมอีก $277mn จากกรณีที่มีข้อมูลรั่วไหลเมื่อปี 62 ส่งผลให้ค่าปรับทั้งหมดรวมเป็นเกือบ $1bn อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมา Meta ได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่และมีการเปลี่ยนแปลงระบบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ประกอบกับมูลค่าที่ปรับในครั้งนี้ถือว่าน้อยกว่า 1% ของรายได้รวม เราจึงมองว่าไม่มีนัยสำคัญมากนัก ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $144.67
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งบวกเด่น 5.2% นำโดย Ping An (2318) +12.9% Meituan (3690) +11.5% หลังการประท้วงในจีนเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งในช่วงบ่าย กระทรวงสาธารณสุขจีน (NHC) แถลงว่าจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์แก่ผู้สูงอายุ (80 ปีขึ้นไป) หลังกลุ่มดังกล่าวมีสัดส่วนเพียง 66% ที่ได้รับครบโดส ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคต่อการเปิดประเทศ นอกจากนี้ NHC ยังเผยว่าจะหลีกเลี่ยงการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวดเกินไป ซึ่งเรามองเป็นสัญญาณดีต่อการผ่อนคลายนโยบาย Zero-COVID เรายังคงมีมุมมองบวกต่อกลุ่มเปิดเมืองของจีน เช่น Meituan (3690) และ YumChina (9987)
- Tencent (700) ประกาศจับมือกับ NIO (9866) ร่วมกันเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือเชิงลึกในด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ และแผนที่นำทางการขับขี่ และจะยังร่วมกันวิจัยเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานผ่านระบบคลาวด์อีกด้วย คาดเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ธุรกิจคลาวด์ของ Tencent และช่วยเสริมแกร่งธุรกิจรถ EV ของ NIO ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP Tencent ที่ HKD396.24 และ NIO ที่ HKD139.10
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN บวกต่อ 2.6% ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฮ่องกง นำโดย MWG +6.6% VCB +4.0% หลังธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) จัดประชุมพิเศษร่วมกับกลุ่มธนาคาร โดยเรามองว่าอาจมีการปรับเพิ่มอัตราเติบโตสินเชื่อสูงสุดของทั้งระบบในปี 65 เป็น 16% จาก 14% อย่างไรก็ดี SBV อาจมีการกำหนดเกณฑ์ใหม่และจะบังคับใช้ตั้งแต่ปี 67 เพื่อควบคุมการปล่อยสินเชื่อในระยะยาว โดยจะกำหนดให้อัตราส่วนปริมาณสินเชื่อต่อยอดเงินฝากไม่เกิน 90% เรามองบวกต่อ DR E1VFVN3001 และ FUEVFVND01 ที่มีสัดส่วนกลุ่มธนาคารราว 39% และ 40% ตามลำดับ หลังคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มอัตราเติบโตสินเชื่อ
- HDB ที่มีสัดส่วนราว 2.8% ในดัชนี VN30 ที่เป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 จัดโปรแกรมสนับสนุนอัตราดอกเบี้ย โดยจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 3.5% จากอัตราเดิมสำหรับลูกค้าบุคคลและลูกค้าองก์กรตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี ซึ่งมูลค่าการสนับสนุนทั้งหมดจะอยู่ที่ VND120bn เรามองว่าจะช่วยทำให้ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) พิจารณาขยายเพดานอัตราเติบโตสินเชื่อให้แก่ HDB เนื่องจากสอดคล้องกับเป้าหมายของ SBV ที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก
Highlight
นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank เผยว่าในช่วงเทศกาลลดราคา Black Friday และ Cyber Monday ที่ผ่านมา ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินบน e-commerce ราว $11.2 – $11.6bn โดยการใช้จ่ายผ่าน Apple Pay ของ Apple (AAPL) มีปริมาณเพิ่มขึ้น 52%YoY ในขณะที่ของ PayPal (PYPL) ลดลง 8%YoY ซึ่ง Apple Pay และ PayPal คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% และ 16% ตามลำดับของการซื้อทั่วโลก เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อ Apple และเป็นการกระจายรายได้นอกเหนือธุรกิจฮาร์ดแวร์