บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +6.8%

Close Jan 25, 2023 Price (THB) 103.00 

12M Target (THB) 110.00

Previous Target (THB) 95.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 638 ลบ. (+14.9%QoQ, +2.7%YoY) มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มต้นทุนที่ฟื้นตัวมากขึ้น หลังต้นทุนเก่าที่มีราคาสูงหมดไป
  • แนวโน้ม 1Q66 เบื้องต้นคาดเติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากการเน้นจําหน่ายกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น และได้อานิสงค์จากการที่จินเปิดประเทศเร็วกว่าคาดหนุนการส่งออก
  • การขยายธุรกิจกลุ่มเบียร์ของเครือคาราบาวแดง เรามองเป็นบวกต่อธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายของ CBG ในระยะยาว

Our view

  • เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 ทอง CBG คาดรายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง และปัจจัยกดดันด้านต้นทุนคลี่คลายมากขึ้น
  • เราปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 110.00 บาท มี Upside Balm 6.8% จึงยังคงคําแนะนํา Trading เชิงกลยุทธ์ในระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรจากประเด็นที่กลุ่มคาราบาวแดงมีการลงทุนในธุรกิจเบียร์ หรือทยอยสะสมเมื่อราคาหุ้นย่อตัวลงบริเวณแนวรับ 100 บาท +/-

CARABAO GROUP มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อภาพระยะยาว

คาดกำไร 4Q65 ฟื้นตัวเด่น QoQ ทรงตัว YoY

เราคาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 638 ลบ. (+34.3% QoQ, +2.7% YoY) ฟื้นตัวเด่น QoQ จากฐานที่ต่ำ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นได้ดีมากขึ้น จากการรับรองราคาต้นทุนอลูมิเนียมที่ปรับลดลง โดยเราคาดราคาอลูมิเนียมเฉลี่ยใน 4Q65 ที่ 2,300 USD/ตัน ลดลงจาก 2,600 – 3,000 USD/ตัน ใน 3Q65 หลังต้นทุนเก่าที่มีราคาสูงหมดไป  ประกอบกับค่าเงินบาทเทียบ USD ที่แข็งค่ามากขึ้น ช่วยผ่อนคลายราคาต้นทุนการนำเข้า ขณะที่กำไรเทียบ YoY เราคาดทรงตัว แม้รายได้คาดเติบโตได้มากขึ้น ทั้งรายได้ในประเทศ (ทั้งจากกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง และธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่าย) ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และรายได้ส่งออกที่คาดว่าการส่งออกไปจีนฟื้นตัวดีขึ้น และการเจาะตลาดเวียดนามได้มากขึ้น แต่ต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการขายยังอยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยกดดัน โดยหากกำไร 4Q65 เป็นไปตามที่เราคาด จะทำให้กำไรทั้งปีของบริษัทจะมี Downside risk จากประมาณการปี 2565 ของเราราว 7%

ปี 2566 ฟ้าฝนเป็นใจมากขึ้น

เราคาดแนวโน้มกำไร 100% เติบโต และ YoY โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ที่มองว่าจะฟื้นตัว ฃได้ดีขึ้น โดยตลาดในประเทศศาลจะรับรู้ผลของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการเน้นจำหน่ายสินค้ากลุ่มพรีเมียม (คันโซx2) ได้มากขึ้น ขณะที่การส่งออกได้อานิสงค์จากการที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด ส่วน GPM คาดจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากราคาบรรจุภัณฑ์ที่ชะลอตัว, ค่าขนส่งทางเรือที่ลดลง และค่าเงินบาทเทียบ USD ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรในปี 2565 เนื่องจาก 1) มองรายได้จะเติบโตได้มากขึ้น ทั้งจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง และธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่าย 2) รับรู้รายได้จากเครื่องดื่มคันโซ x 2 ได้เต็มปี 3) การขยายตลาดเวียดนามมากขึ้น หลังได้พันธมิตรรายใหม่ 4) รายได้ในเมียนมาคาดฟื้นตัว หลังบริษัทจะติดตั้งกำลังการผลิตในเมียนมาแล้วเสร็จใน 2Q66 แก้ปัญหาการส่งออก 5) ราคาต้นทุนพลังงานที่ใช้ในการผลิตขวดแก้วอย่างก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มปรับลดลง คาดส่งผลชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ 2H66 เป็นต้นไป 6) ค่าเงินบาทเทียบ USD ที่แข็งค่า YoY แตะระดับ 32 บาท ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบ เราคงประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 3,196 ลบ. (+17.9% YoY)

ปรับราคาเหมาะสม คงคำแนะนำ “TRADING”

เราปรับราคาเป้าหมายปี 2566 ขึ้นเป็น 110.00 บาท อิงวิธี DCF (wacc 7.1%, t.g. 4%) จากการปรับขึ้น ประมาณการกำไรปี 2567-2570 อย่าง conservative ราว 2-4% มี Upside gain 5.8% จึงยังคงคำแนะนำ TRADING เชิงกลยุทธ์ในระยะสั้น บริษัทได้ Sentiment เชิงบวกจากประเด็นการลงทุนในธุรกิจเบียร์ของบริษัทตะวันแดง 1999 ซึ่งเรามองจะเป็น Upside ต่อรายได้ธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายและผลประกอบการของ CBG ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป แนะนำเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว หรือทยอยสะสม เมื่อราคาหุ้นย่อตัวลงบริเวณแนวรับ 100 บาท +/-

- Advertisement -