MICRO กางแผนปี 66 พอร์ตสินเชื่อแตะ 5,500-5,800 ลบ. คุมเข้ม NPL ไม่เกิน 4ประกาศจ่ายปันผลปี 65 หุ้นละ 0.036 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น

MICRO กางแผนธุรกิจปี 2566 ตั้งธงปล่อยสินเชื่อใหม่ 2,800-3,000 ล้านบาท ขยายพอร์ตแตะ 5,500-5,800 ล้านบาท ชี้ความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 และรถจักรยานยนต์ใหม่ยังขยายตัว แต่ MICRO เน้นคัดกรองคุณภาพลูกหนี้-คุมเข้ม NPL สิ้นปีนี้ต่ำกว่า 4% เตรียมพร้อม Digital Transformation เพื่อขยายธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ล่าสุด MFIN ธปท.ไฟเขียวให้ไลเซ่นส์แล้ว เตรียมปล่อยสินเชื่อไตรมาส 2/66 นี้ ด้านผลประกอบการปี 65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 853.74 ลบ. โต 35% กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 79.14  ลบ. ประกาศจ่ายปันผลปี 65 หุ้นละ 0.036 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 8 พ.ค.66  

นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2566 เชื่อว่าจะมีการขยายตัวที่ดีจากปีที่ผ่านมา โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ อยู่ที่ 2,800-3,000 ล้านบาท ดันภาพรวมการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดเติบโตราว 5,500-5,800 ล้านบาท จากปีก่อน กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเน้นคัดกรองลูกหนี้ที่มีคุณภาพป้องกันการเกิดหนี้เสีย และควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4%

“การตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อของบริษัทในปีนี้จะเน้นในเรื่องคุณภาพของสินเชื่อใหม่ที่เข้ามาเป็นหลัก รวมถึงการขยายสาขาในช่วงครึ่งปีแรกที่จะยังไม่มีการเปิดสาขาใหม่ โดยขอประเมินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากแนวโน้มครึ่งปีหลังภาพรวมเศรษฐกิจและภาวะตลาดรถบรรทุกสิบล้อมือสองมีทิศทางการเติบโตที่ดี ก็จะมีการปรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อใหม่อีกครั้ง ซึ่งทางบริษัทจะใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการสินเชื่อทั้งระบบ รวมทั้งการทำ Digital Transformation เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท MICRO อย่างมั่นคงและยั่งยืนกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตามพันธกิจของบริษัท” นายวิศาลท์ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MICRO) ที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ในปี 66 นี้ จะเน้นการควบคุมพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับการขยายตัวของบริษัทในกลุ่มธุรกิจ โดยในกลุ่มธุรกิจประกอบด้วย บริษัท ไมโครพลัสลิสซิ่ง จำกัด (MPLUS) ที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ภายในปี 2566 วางเป้าหมายขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 1,300 ล้านบาท ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทมีมติลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ “บริษัท ไมโครพลัส ลิสซิ่ง จํากัด” ( MICRO ถือหุ้น 51%) เป็นทุนจดทะเบียนจํานวน 400 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 800 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวน 4 ล้านหุ้น หุ้นละ 100 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม อีกทั้งให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ “บริษัท ไมโครพลัส ลิสซิ่ง จํากัด” ในรูปแบบวงเงินหมุนเวียนไม่เกิน 800 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์

ขณะที่ บริษัท ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ จำกัด (MIB) ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต วางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้กับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถบรรทุกมือสอง และรถจักรยานยนต์

รวมถึงบริษัท ไมโคร ฟิน จำกัด (MFIN) ที่ตั้งเป้าให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อที่ไม่มีทะเบียนรถเป็นประกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อในช่วงไตรมาส 2/66 นี้ เน้นขยายฐานลูกค้าเดิมของ MICRO เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ไมโครลิสซิ่ง กรุ๊ป ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงช่องทางการให้บริการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยมุ่งหวังที่จะส่งต่อผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณค่า สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

สำหรับผลประกอบการในงวดปี 2565​ บริษัทฯมี​รายได้รวมอยู่ที่ 853.74  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.01% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 632.36 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทและบริษัทย่อย และรายได้จากค่าบริการประกันภัยและประกันวงเงินสินเชื่อจากยอดปล่อยสินเชื่อที่เติบโตขึ้น มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 79.14 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น และสะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จากผลประกอบการกำไรสุทธิประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.036 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 33,660,000 บาท  หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 41.09 ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย บริษัทกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 8 พฤษภาคม 2566  และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 วันที่จ่ายปันผล  18 พฤษภาคม 2566

- Advertisement -