เรื่องดีๆ หลังการประชุม / 1,525-1,550

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET แกว่งตัว Sideways up: การประชุมกนง.วานนี้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 2.00% ตามคาด และมองไปข้างหน้าในการประชุมเดือนส.ค. ทางฝ่ายมองว่ากนง.มีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมดังกล่าว เพื่อให้สอดรับกับการฟื้นตัวของศก.ไทย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของศก.โลก กอปรกับเงินเฟ้อไทยมีแนวโน้มทยอยลดลง และกลับสู่กรอบเป้าหมาย สอดรับกับการประมาณการศก.ของกนง.ในเดือนพ.ค. ที่ปรับลดการขยายตัวของเงินเฟ้อทั่วไปลงสู่ 2.5% จากเดิมที่ 2.9% ทั้งนี้การหยุดพักหรือสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นการลดแรงกดดันต่อต้นทุนทางการเงินของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ส่งผลให้ทางฝ่ายมองว่าหุ้นในกลุ่มการจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่องจะกลับมามีความคึกคักอีกครั้ง กอปรกับได้แรงหนุนจากการปรับเพิ่มการขยายตัวของการบริโภคเอกชนสู่ 4.4% จากเดิมที่ 4.0% ของกนง. ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของอุปสงค์ภายในประเทศ นอกจากนี้คาด SET Index ได้แรงหนุนจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่ลงมติผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย อย่างไรก็ดี อุปสงค์ภายนอกยังคงเป็นแรง กดดันต่อ SET Index หลังสศอ.เผย MPI เดือนเม.ย. หดตัว 8.14%y-y จากผลกระทบของการชะลอตัวของศก.โลก อีกทั้ง ศก.จีนที่ยังคงฟื้นตัวได้ช้า สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ที่ระดับ 48.8 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 อย่างไรก็ดี ติดตามการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบัน Caixin ในวันนี้เพื่อประเมินภาพศก.จีนอีกครั้ง
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, BA, BRI, CPALL, COM7, DOHOME, MAJOR, MAKRO, MINT, SAPPE 2) ยานยนต์+นิคม: AH, AMATA, SAT, WHA 3) ส่งออกไก่: BTG, GFPT และ 4) โรงกลั่น: BCP, SPRC

ปัจจัยบวก

  • รอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า Geely บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแผนการเข้าสู่ตลาด EV ในไทย ซึ่งรวมถึงการพิจารณาทั้งเรื่องการนําเข้าและการผลิตในประเทศ
  • ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคานํ้ามันดิบสำหรับส่งออกไปยังตลาดเอเชียเพิ่มเติมในเดือนก.ค. โดยผลการสารวจของรอยเตอร์กับโรงกลั่นนํ้ามัน 7 แห่งของเอเชียระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ สำหรับราคานํ้ามันดิบประเภท Arab light ประมาณ $1 ต่อบาร์เรลในเดือนก.ค. เป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น
  • จีนจะรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบัน Caixin เดือน พ.ค. ในวันนี้ ตลาดคาดที่ระดับ 50.3 จาก 49.5 ในเดือนเม.ย.

ปัจจัยลบ

  • สศอ.เผย MPI เดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 83.51 หดตัวที่ 8.14% y-y เนื่องจากภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบจากศก.โลกที่หดตัวลง ต้นทุนการผลิตและต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น กดดันภาคการส่งออกและขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมไทยลดลง
  • สหรัฐฯ เผย JOLTS เดือนเม.ย. ที่ 10.1 ล้านตำแหน่งมากกว่าตลาดคาดและเดือนมี.ค. ที่ 9.8 และ 9.7 ล้านตำแหน่งตามลำดับ ซึ่งเป็นการสะท้อนภาพตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง และอาจเป็นแรงหนุนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้
  • ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ระบุว่าเธอไม่เห็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอที่ทำให้ต้องระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ติดตามการรายงาน CPI เดือนพ.ค. ในวันนี้ ตลาดคาดขยายตัว 7.09% y-y

PICKS OF THE DAY

COM7 BUY
  • เป้าหมาย 30.00 / 31.00 แนวรับ 28.00 / 28.50
  • คาด 2Q-4Q ได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว: หลัง กนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 2% ไปแล้ว แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มลดลง ทำให้คาดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ด้านเศรษฐกิจมองปีนี้ขยายตัว 3.6% ซึ่งจะช่วยหนุนให้ยอดขายเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะฝั่ง Accessories, ฟิลม์กันรอย คาดจะเติบโตโดดเด่นจากการเข้าซื้อ “เบเบ้ช้อป” ส่วนฝั่งต้นทุน มองทั้งสามไตรมาสที่เหลือจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่า Ft ที่อาจปรับลง
  • แผนการขยายสาขายังเดินหน้าต่อ: ใน 1Q66 เปิดสาขาเพิ่ม 120 สาขา รวมเป็น 1,280 สาขา และผู้บริหารตั้งเป้าสิ้นปีแตะ 1,400 สาขา ครอบคลุม 76 จาก 77 จังหวัดของไทย

BRI BUY

  • เป้าหมาย 10.30 / 10.60 แนวรับ 9.70 / 9.85
  • กำไรฟื้น: ใน 2Q66 เปิดโครงการมากขึ้นและยังมีโครงการครบกำหนดโอนรวมมูลค่าแล้วสูงกว่าไตรมาสแรก และด้วยต้นปีที่มีการร่วมทุนเยอะ ทำให้มีการขายหุ้นจากบริษัทย่อยทำให้ส่วนแบ่งกำไรติดลบในไตรมาสแรก, คาด 2Q66 เห็นกำไรฟื้นขึ้น
  • ปรับตัว: BRI เริ่มมีการนำ Precast มาใช้ในบางโครงการช่วยลดปัญหาเรื่องต้นทุนแรงงาน หากมีการเพิ่มค่าแรงขึ้นต่ำจากนโยบายรัฐ
  • PE ต่ำ: ปัจจุบัน PE ที่ 5.9 เท่า ต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาด มองเป็นโอกาสลงทุน แถมได้ Div. yield สูงถึง 6.44%
- Advertisement -