รอบด้านตลาดหุ้น: What are you waiting for?

สรุปภาพตลาดวานนี้

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปิดเสมอตัวแถวแนวรับสำคัญ 1380 หุ้นบวกคละกลุ่มกัน CPALL CRC ADVANC INTUCH GPSC EA และกลุ่มกลาง-เล็กที่เด้งกลับ เช่น TAN W ICHI JTS MENA MOSHI ขณะที่ AOT CPAXT ยังอยู่ในโหมด กดดันตลาด กับอีกหลายหุ้นใหญ่ PTTEP BDMS CPF GULF RATCH BJC

ภาพตลาดและแนวโน้ม 

– สัปดาห์ที่แล้ว(ตัวแปรบวกตามคาดหมด ยกเว้นหุ้นไทยที่ไม่บวกตาม) เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยุโรป ลดลงต่อเนื่อง, น้ำมันปรับลงต่อ, ดัชนีภาคการผลิตเริ่มโงหัวขึ้นในฝั่งสหรัฐฯ, บอนด์ยิลด์ทั้งไทย และสหรัฐลดลงต่อเนื่อง หุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงบวก แต่หุ้นไทยไม่รู้รออะไร?

– ทุกตัวแปรดูจะพร้อมหนุนหุ้นไทย ให้บวกได้แล้ว คาดกรอบสัปดาห์นี้ Sideways up 1,370-1,430 จุด

2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยที่นักลงทุนเคยมองเป็นประเด็นถ่วงตลาดหุ้น (ตามที่เราเกริ่นข้างต้น) ล้วนพลิกหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกให้กลับมาบวกได้ตลอด 2 สัปดาห์เฉลี่ย 2% แต่หุ้นไทย พลิกลบสวนทางหุ้นโลก และแม้แต่ ภูมิภาคอย่าง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ (TIPS market)

เราคงให้น้ำหนัก ตลาดหุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวได้ตามภาวะการฟื้นตัวของสัญญาณที่ดีจากภาวะเศรษฐกิจในระดับมหภาค เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค

หุ้นแนะนำวันนี้ : OR ITC

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

  • การประชุมกระทรวงแรงงานและคณะกรรมการไตรภาคีนอกรอบก่อนตัดสินใจเรื่อง ขึ้นค่าแรง ในการประชุมวันที่ 8 ธค.นี้ ก่อนนำเสนอ ครม.12 ธค.นี้
  • CME FED watch tool คาดเฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุม เดือน ธ.ค.66 ม.ค. 67 และ มี.ค. 67 ก่อนจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 5-525% ในเดือน พ.ค. 67
  • คาดหุ้นเข้า SET50 KCE ITC BCP หุ้นออก TLI INTUCH DELTA

Global Investing Brief : Fed ส่งสัญญาณดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุด ด้าน BYD เปิดตัวชิปสำหรับรถ EV

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

  • 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดบวกราว 0.6-0.8% เมื่อคืนวันศุกร์ หลัง เจอโรม พาวเวล ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจแตะระดับสูงสุดแล้ว และ Fed จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวังในการใช้นโยบายการเงินไม่ให้คุมเข้ม หรือผ่อนคลายมากเกินไป โดยล่าสุด FedWatch Tool เผยนักลงทุนให้น้ำหนักราว 98.9% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.5% ในการประชุม Fed วันที่ 13 ธ.ค. 66 เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนหุ้นเทคฯ เช่น Adobe (ADBE) Alphabet (GOOGL) และ Microsoft (MSFT) เป็นต้น
  • เมื่อ 30 พ.ย. 66 OpenAI บริษัทที่ Microsoft (MSFT) เข้าลงทุน ได้เผยยอดผู้ใช้งาน ChatGPT อยู่ที่ราว 1.7 พันล้านคน โดยเรามองว่าจำนวนผู้ใช้งานยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอาจเป็น upside ต่อกำไรของ MSFT ในระยะยาว หลัง OpenAI ได้เปิดตัว “GPTs” เครื่องมือเสริมใน ChatGPT โดย GPTs จะสามารถทำให้ผู้ใช้งาน ChatGPT Plus และ ChatGPT Enterprise สามารถเลือกให้ ChatGPT ทำงานได้ตามหัวข้อที่ต้องการ เช่น แนะนำการเล่นเกมส์ หรือให้คำปรึกษาด้านไอที เป็นต้น ทั้งนี้เรามองว่า MSFT มีโอกาสนำมาประยุกต์ใช้กับซอฟต์แวร์ของตัวเองเช่นกัน เช่น Bing เป็นต้น ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP MSFT ที่ $409.14 (upside 9%)

ตลาดหุ้นฮ่องกง 

  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี Hang Seng ปรับลง 1.3% โดย Haidilao (6862) -4.3% และ Anta Sports (2020) -3.1% ขณะที่ทางการจีนได้เริ่มใช้นโยบาย “วีซ่าฟรี” (visa-free) เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 66 โดยมีผลบังคับใช้ถึง 1 พ.ย. 67 ที่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และมาเลเซีย สามารถเข้าจีนได้เป็นระยะเวลา 15 วัน แบบไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเปิดเมือง เช่น Yum China (9987) และ Haidilao (6862) เป็นต้น
  • China Mobile (941) ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าในภาคใต้ของจีน เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และการเพิ่มสัญญาณเครือข่ายสื่อสารให้ครอบคลุมในเมืองยูนนาน ซึ่งเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ด้านการพัฒนาระบบสื่อสารในระยะยาว โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้ปี 66 อาจโต 9%YoY แตะ RMB1,021bn ด้าน TP ให้ไว้ที่ HKD83.23 (upside 31%)

ตลาดหุ้นเวียดนาม 

  • ดัชนี VN ปิดบวก 0.7% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นำโดย GAS +1.6% VNM +1.5% และ BID +1.4% ขณะที่สมาคมเหล็กเวียดนามเผยยอดขายเหล็กเดือน ต.ค. 66 โต 15.5%YoY แตะ 2.2 ล้านตัน หนุนจากความต้องการเหล็กในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สหภาพยุโรปได้ขยายมาตรการงดเก็บภาษี 25% ของรายการเหล็กที่ส่งออกจากเวียดนามไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 67 เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนหุ้นเหล็ก HPG ที่มีสัดส่วน 7% ในดัชนี VN 30 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001
  • KDH ที่มีน้ำหนัก 2% ในดัชนี VN Diamond ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR FUEVFVND01 เผยถึงความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ “Privia” ด้วยยอดจองถึง 80% จากทั้งหมด 1,043 ยูนิต ภายใน 2 วัน (25-26 พ.ย. 66) นอกจากนี้เรามองว่ารายได้บริษัทยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง หลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านและอพาร์ทเมนต์ใหม่ “Clarita และ Emeria” ในช่วงสิ้นปีนี้

หุ้นเด่นประจำวัน : BYD (1211.HK) 

  • บริษัทเผยความสำเร็จในการทำวิจัยและพัฒนาชิปสำหรับรถยนต์ และพร้อมนำชิปดังกล่าวไปทดสอบใช้ในช่วงสิ้นปีนี้
  • เรามองว่าการผลิตชิปเองอาจช่วยลดต้นทุนการผลิตรถ EV ลง ซึ่งจะเป็นปัจจับบวกต่ออัตรากำไรของบริษัท โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยกำไรของ BYD มีแนวโน้มโตเฉลี่ย 10%YoY ต่อปี ในช่วงปี 67-70
- Advertisement -